ทุกคนมีวิธีบำบัดความเศร้าไม่เหมือนกัน
บางคนร้องไห้ ฟูมฟายให้ใครสักคนฟัง
แต่นั่นไม่ใช่กับคิมมินซอก
เสียงประตูปิดลงเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว
เด็กหนุ่มคิดว่าตอนนี้เราสองคนควรเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา
แล้วพูดถึงไอ้หอกหักที่เมาเดินโซเซมาชนจนเบียร์ครึ่งขวดหกใส่เสื้อเขา
หวงจื่อเทาควรเห็นรุ่นพี่ส่ายหน้าหน่าย
ๆ กับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้น
หรือไม่ก็เป็นรอยยิ้มที่พี่มินซอกมักจะมองมาอย่างเอ็นดู
หลังจากนั้นเขาก็จะถูกไล่ให้ไปอาบน้ำพร้อมกับประโยคว่า ‘เลิกบ่นเป็นคนแก่ได้แล้ว’
แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น...
ตอนนี้ริมฝีปากของเรากำลังบดขยี้จูบกันอย่างเร่าร้อนราวกับคนอดอยากเรื่องอย่างว่ามานาน
จื่อเทาไม่ได้เป็นคนเริ่มเหมือนกับครั้งก่อน ๆ
เขาคิดว่าความอยากรู้อยากเห็นมันดร็อปลงตั้งแต่ช่วงสองเดือนแรก
พอหลังจากนั้นก็ปรับตัวให้ชินกับการรอได้ ใช่...เขาหมายถึงการรอให้พี่มินซอกค่อย ๆ
ปลิดกระดุมเสื้อเขาด้วยมือเดียว ก่อนที่เราจะเริ่มเรื่องตื่นเต้นกัน
เด็กหนุ่มอุ้มคนตรงหน้าขึ้นมา
และรุ่นพี่ตัวเล็กก็เกี่ยวขาไว้กับเอวเขาอย่างรู้งาน
มือเรียวลูบไปตามแผงอกแกร่งผ่านเสื้อตัวนอก
พร้อมใช้มืออีกข้างรั้งท้ายทอยแกร่งเข้ามากดจูบหนัก ๆ ราวกับว่าเจ้าตัวอยากกระตุ้นอารมณ์ให้เขาเสร็จมันตั้งแต่ตรงนี้
“ถ้าผมบอกว่าให้ใจเย็นหน่อยก็คงไม่ทันแล้วใช่ไหม?”
เด็กหนุ่มผละริมฝีปากออกมาเพียงเล็กน้อยเพื่อสบตากับคนตัวเล็ก
และคาดว่าหวงจื่อเทาคงต้องผิดหวัง
เมื่ออีกฝ่ายเลือกที่จะงับริมฝีปากล่างของเขาเอาไว้แล้วค่อย ๆ
ดึงเล็กน้อยราวกับต้องการดึงความสนใจไปเรื่องอื่น
จื่อเทาเพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไรชักช้าก็ตอนที่มินซอกปล่อยขาลงมาแล้วดันให้เขาชิดกับผนังเย็น
เด็กหนุ่มถอนหายใจพรูเมื่อมือซุกซนลูบเป้ากางเกงเขาจนมันคับพองแน่นไปหมด
ก่อนจะเค้นคลึงพร้อมปลดเข็มขัดของเขาไปด้วย
“จะไม่บอกจริง ๆ
เหรอว่าพี่เป็นอะไร?”
จื่อเทายังคงคาใจตั้งแต่เมื่อสองสามชั่วโมงที่แล้ว
ที่มินซอกเอาแต่เงียบแล้วก็ดื่มอย่างเดียว ตั้งแต่รู้จักกันมา
นี่เป็นครั้งแรกที่คนตัวเล็กดื่มหนัก
และหวงจื่อเทาก็ไม่ได้ซื่อบื้อจนเดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายมีเรื่องอึดอัดในใจ แต่ที่ถามก็เพราะอยากรู้ว่าต้นเหตุของเรื่องนี้มันมาจากไหนก็เท่านั้น
พี่มินซอกร่นชั้นในสีขาวของเขาลงก่อนจะใช้มือประคองส่วนนั้นออกมา
ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจะไม่ได้สนใจตอบคำถาม
หรือความจริงแล้วพี่มินซอกอาจจะไม่ได้ยิน
“อา...”
เพียงแค่ปลายลิ้นอุ่นแตะลงส่วนปลายเบา
ๆ
เด็กหนุ่มก็รู้สึกดีจนอยากกดศีรษะอีกคนเข้าหาแกนกายที่กำลังแข็งขืนเพราะถูกมือเล็กรั้งรูดอย่างเป็นจังหวะ
แต่พอมาคิดดูแล้ว...
บางทีพี่มินซอกอาจจะจัดการทุกอย่างเองทั้งหมดโดยที่เขาไม่ต้องร้องขอให้ทำเลยก็ได้
“อะ...อา...พี่มินซอก...อืม...”
จื่อเทาเงยหน้าขึ้นก่อนจะหลับตาลงรับสัมผัสวาบหวิวที่คนตัวเล็กมอบให้ด้วยริมฝีปาก
มือแกร่งวางลงบนศีรษะทุย
โพรงปากอุ่นร้อนกำลังทำให้เขาอยากข้ามขั้นตอนหวาดเสียวนี้ไป
แต่เขาก็ชอบช่วงเวลาของการปลุกเร้าเช่นกัน
เด็กหนุ่มครางหวิวในลำคอ
ถึงจะไม่เคยบอก แต่พี่มินซอกก็คงรู้ดีว่าเขาชอบเวลาถูกใช้ปากมากแค่ไหน
จื่อเทาก้มลงมองริมฝีปากอิ่มที่อมท่อนเอ็นของเขาเอาไว้ได้เกือบทั้งหมด
ขยับรั้งรูดตั้งแต่โคนมาถึงปลาย ช้าบ้าง... เร็วบ้าง...
แต่ที่สุดแล้วมันก็คือความเสียว
“มีใครเคยบอกให้พี่เงยหน้าขึ้นเวลาใช้ลิ้นบ้างไหม?”
มินซอกตอบคำถามนี้ด้วยสายตาที่ช้อนมองขึ้นมาทั้งที่ริมฝีปากยังคงดูดดุนส่วนปลายสลับกับเรียวลิ้นที่กระหวัดวนรอบ
เราสบตากันอยู่อย่างนั้น
ซึ่งเด็กหนุ่มคิดว่าบางทีร่างกายอาจจะคุยกันรู้เรื่องได้มากกว่าประโยคถามตอบ
จื่อเทาถอดเสื้อทั้งสองตัวออกแล้วร่นกางเกงลงไปถึงหัวเข่า
แน่นอนว่าเขาไม่ได้ขัดจังหวะคนที่กำลังสนุกกับท่อนเอ็นที่อยู่ในโพรงปากร้อน
โอเค...
ไม่อยากรู้แล้วก็ได้ว่าเพราะอะไรพี่มินซอกถึงเป็นแบบนี้
มันคงมีไม่กี่เรื่องหรอกที่ทำให้คนเก็บอาการเก่งน็อตหลุดได้
แต่มันก็แค่การคาดเดาของคนที่ทำได้แค่รอให้อีกฝ่ายเล่าเองเท่านั้น
และในเมื่อพี่มินซอกต้องการเซ็กส์
จื่อเทาก็จะทำให้จนกว่าอีกฝ่ายจะพอใจ
เด็กหนุ่มร่างกำยำดึงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะช่วยถอดเสื้อผ้าให้
เราจูบกันครั้งแล้วครั้งเล่าจนรู้สึกปวดชาริมฝีปาก แทนที่มันจะทำให้รู้สึกเจ็บ
แต่เขากลับรู้สึกว่ามันเป็นการกระตุ้นอารมณ์ให้พุ่งขึ้นสูงยิ่งกว่าที่เป็นอยู่
“เร็วสิ...เข้ามา”
เสียงของพี่มินซอกแหบพร่า
ทันทีที่คนตัวเล็กถอดเสื้อผ้าออกจนหมด
ร่างขาวนั้นก็หันหลังให้พร้อมยันมือข้างหนึ่งไว้กับผนัง
จื่อเทาเลียริมฝีปากพลางวางมือไว้กับสะโพกมน
เด็กหนุ่มรู้ว่ารุ่นพี่ตัวเล็กกำลังจะทนไม่ไหว และเขาเองก็เช่นกัน
ใบหน้าเรียวหันมาราวกับเชิญชวน
พี่มินซอกจับมือเขาให้ขยำสะโพกตนเองก่อนจะส่งเสียงครางออกมา จื่อเทาค่อย ๆ
ดันแกนกายเข้าไปในช่องคับแคบที่ยังไม่ได้เบิกทาง
ซึ่งเขาพอจะรู้ว่าพี่มินซอกคงไม่ใจเย็นรอถึงขนาดนั้น
หวงจื่อเทารู้ว่ามีสองอย่างที่ทำให้พี่มินซอกยอมเจ็บได้
เรื่องแรกคือเซ็กส์
และเรื่องที่สองคือความรัก
“อะ...อา...อ๊ะ”
เสียงหอบหายใจติดขัดเคล้ากับเสียงเนื้อกระทบเนื้อ
มันฟังดูหยาบโลนแต่ทำให้เซ็กส์ของเรามีรสชาติมากยิ่งขึ้นไปอีก จื่อเทาเลียริมฝีปาก
เสียงครางระงมไปโดยรอบบ่งบอกได้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังพอใจมากแค่ไหน
เด็กหนุ่มประคองสะโพกมนไว้แล้วกระแทกกายเข้าไปอย่างหนักหน่วงโดยไม่ลดหย่อนจังหวะให้อารมณ์คลายลง
ในทีแรกเขาอาจจะไม่รู้ว่าต้องทำยังไงผู้ชายด้วยกันถึงจะพอใจ
แต่จากประสบการณ์ที่พี่มินซอกเคยสอนให้
แน่นอนว่าในวินาทีนี้เขารู้ว่าจะต้องทำแบบไหน อีกคนถึงจะรู้สึกดี
.
.
แผ่นหลังกว้างเอนราบลงกับผืนเตียงก่อนโน้มท้ายทอยคนตัวเล็กลงมาจูบ
เด็กหนุ่มขยำสะโพกมนที่ลอยอยู่เหนือหน้าขาเขาเพียงเล็กน้อย
ก่อนที่มือเล็กจะจับส่วนแข็งขืนใส่เข้าไปในช่องทางรักอีกครั้ง
เราผละริมฝีปากออกจากกัน
จื่อเทารู้ว่าช่วงเวลาโปรดปราณของเขากำลังจะมาถึง
เด็กหนุ่มปรือตามองร่างขาวสะอาดของอีกคนที่เริ่มยกสะโพกขึ้นอย่างเนิบนาบ
เขาชอบริมฝีปากสีเชอร์รี่ที่กำลังเผยอครางแผ่ว
รวมไปถึงตอนที่รับแกนกายของเขาเข้าไปทั้งหมดได้โดยไม่สำลักออกมาเหมือนผู้หญิงคนอื่น
ๆ นั่นก็ยิ่งน่าหลงใหล
ร่างเล็กยันมือข้างหนึ่งไว้กับหน้าท้องเป็นลอนอ่อน
ๆ ของเด็กหนุ่มนักกีฬา ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วยิ่งขึ้น
จนจื่อเทาอดไม่ไหวต้องฟาดมือลงบนสะโพกมนให้หายหมั่นเขี้ยว
“อะ...อ๊ะ...อา...”
“อย่างนั้น...อา...”
เด็กตัวสูงลุกขึ้นนั่งก่อนจะกอดคนตัวเล็กเอาไว้แล้วกระแทกกายสวนกลับไปแรง
ๆ เสียงพี่มินซอกตอนครางกระเส่าข้างหู
กับเล็บที่ข่วนตามแผ่นหลังมันทำให้เขาลืมคำว่าอ่อนโยนไปจนหมดสิ้น
“ผมยังอยู่กับพี่ทั้งคืนน่า...”
ถึงจะพูดอย่างนั้น
แต่กลับเป็นตัวเขาเองนั่นแหละที่เร่งระดับให้เซ็กส์ของเราเผ็ดร้อนขึ้นเรื่อย ๆ
มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่หวงจื่อเทาเป็นคนช่างเอาใจ
พอรู้ว่าพี่มินซอกชอบแบบไหน เขาก็อยากจะทำอย่างนั้น
เรื่องระหว่างเรามันไม่ใช่ความรัก
พี่มินซอกเป็นคนสอนเองว่าต้องแยกเซ็กส์กับความรักออกจากกันให้ได้
เราต่างรู้สึกดีที่มีกันและกัน ไม่ผูกมัด ไม่รัก แค่อยู่ด้วยกันในเวลาอีกฝ่ายต้องการก็พอ
“อา...พี่เหมือนคนจะร้องไห้เลย”
จื่อเทาเงยหน้าขึ้นมองคนตัวเล็กที่ยังเคลื่อนไหวอยู่บนตักเขาอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าจังหวะมันจะไม่เร็วแรงเหมือนในทีแรก
แต่พี่มินซอกก็ไม่ได้ปล่อยให้ใครสักคนเสียอารมณ์ไป
“จะเอาคำตอบให้ได้ใช่ไหม...อืม...อะ...”
ไอ้เด็กอวดดีแกล้งกดแกนกายเข้ามาจนมิด
ก่อนจะยกสะโพกเขาขึ้นจนส่วนนั้นเกือบหลุด จื่อเทายิ้มพอใจ
เขาไม่ได้ต้องการคำตอบบ้าบออะไรนั่นแล้ว
ที่เป็นอยู่ก็แค่อยากทำให้รุ่นพี่ตัวเล็กอารมณ์ดีขึ้นก็เท่านั้น
“ทั้งคำตอบทั้งตัวพี่
ผมก็จะเอาทั้งคู่นั่นแหละ” เด็กรุ่นน้องไม่พูดอย่างเดียว
สองมือแกร่งพลิกร่างเล็กกดลงเตียง ก่อนจะจับสองขาแหวกออก
มินซอกมองร่างกายกำยำของเด็กหนุ่มตัวสูง
แล้ววาดมือไปตามหน้าท้องเป็นลอนอย่างช้า ๆ
และเมื่อท่อนเอ็นแข็งขืนถูกใส่เข้ามาอีกครั้ง....เปลือกตาก็ค่อย ๆ หลับลง
เพื่อรับความสุขชั่วครั้งชั่วคราวเหมือนอย่างที่เคย
ร่างกายรับความสุขจากเด็กคนนี้
และปล่อยให้สมองจินตนาการถึงภาพของใครอีกคน
“อา...แรงกว่านี้สิ...”
50%
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น