ต่อจากลิงค์นี้จ้า : http://goo.gl/gIRAjf
ประตูรถไฟที่ปิดลงเป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เด็กหนุ่มรู้ถึงหายนะ
ชานยอลเลียริมฝีปากแล้วเอี้ยวตัวหันกลับเดินไปยังลานจอดรถโดยไม่รอคนตัวเล็กที่มาด้วยกัน
ขายาวหยุดอยู่ตรงประตูหลัง ชั่วอึดใจเลยทีเดียวที่ต้องรอ
เด็กหนุ่มก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ยอมปลดล็อกประตู
“พี่ไม่ใช่คนขับรถ”
คนตัวเล็กเท้าแขนลงบนหลังคารถพร้อมเกยคางลงไป
สายตาที่มองมายังเขานั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด
มันเหมือนกับวันแรกที่ได้เจอกัน แต่ปาร์คชานยอลกลับไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกมองแบบไหน
จนกระทั่งเรื่องบ้า ๆ ระหว่างเราได้เกิดขึ้นในวันที่พี่ซูโฮไปต่างจังหวัด
เขาไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนตามประสาเด็กวัยรุ่น
บนโต๊ะที่คนแพ้ต้องดื่มนั้นแน่นอนว่าปาร์คชานยอลไม่ใช่พวกหัวดีในวงเหล้าที่จะเอาชนะได้ทุกเกม
เด็กหนุ่มถูกมอมจนแทบยืนไม่ไหว แต่ก็ได้เพื่อนช่วยหิ้วปีกพานั่งแท็กซี่มาส่งถึงบ้าน
พี่แบคฮยอนเป็นคนพาเขาเข้าไปในห้อง
ช่วยถอดเสื้อผ้าที่มันช่างน่าอึดอัดเมื่อร่างกายกำลังร้อนรุ่ม ชานยอลไม่เคยรู้มาก่อนว่าสติสัมปชัญญะคนเราจะเลือนหายไปเมื่อถูกพิษเหล้าเล่นงาน
เด็กหนุ่มไม่มีสติมากพอที่จะคำนึงถึงความผิดถูก
แม้ว่าตอนนั้นสายตากำลังปรือมองกลุ่มผมสีบรอนด์สว่างซึ่งอยู่ตรงเป้ากางเกง
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างเชื่องช้า วาบหวิว
และรู้สึกดี เด็กหนุ่มไม่มีสติมากพอที่จะลุกขึ้นมาขอโทษหลังจากปล่อยมันใส่ปากคนอายุมากกว่า
เขาเพียงแค่นอนผ่อนลมหายใจเข้าออกกับความกระสันที่ปะทุขึ้นเรื่อย ๆ
จนกระทั่งอีกฝ่ายขึ้นมาคร่อมทับบนตัวเขา
และมอบความสุขในช่วงเวลาสั้น ๆ ให้
แต่มันกลับกลายเป็นฝันร้ายหลังจากลืมตาตื่น
ชานยอลแทบเสียสติหลังจากตื่นมาพบว่าเขาได้ทำอะไรลงไป
เด็กหนุ่มแทบสำลักความรู้สึกผิดออกมา เขาอยากจะขอโทษพี่แบคฮยอนที่ไม่รู้จักยั้งคิด
แต่ทุกอย่างก็ถูกกลืนลงคอไปหมด เมื่อเขาได้ยินคำนั้นจากปากอีกฝ่าย
‘อึดกว่าที่คิดไว้อีกนะ
อยากรู้จังว่าตอนไม่เมาจะขนาดไหน?’
คนตัวเล็กไม่ได้โกรธ
ไม่แม้แต่จะหลบสายตาแล้วปล่อยให้เราทั้งคู่ได้ใช้เวลาปรับตัวทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
มันผิดคาดไปหมด พี่แบคฮยอนคือรุ่นพี่ที่เคารพและเด็กหนุ่มบอกตัวเองว่าไม่มีวันที่จะคิดมากไปกว่านั้น
เขาไม่ได้ต้องการแบบนี้
ชานยอลนั่งนิ่งเมื่ออีกฝ่ายโน้มหน้าลงมาใช้ปากให้อีกครั้ง
เด็กหนุ่มไม่กล้าแม้แต่จะหลุบสายตาลงมองความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นในวินาทีนี้ จูบของเราช่างขมขื่น
มันฝืนใจจนเขาต้องเบือนหน้าหลบแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมถอดใจหยุดแค่นั้น
‘อย่ากลัวไปเลย หลับตาไว้
แล้วจะรู้สึกดี’
‘หยุดเถอะครับ ผมขอร้อง อะ...
อา... พี่แบคฮยอน’
‘อยู่กับพี่นะชานยอล
พี่จะให้ทุกอย่างเท่าที่นายต้องการ’
หากไม่เกิดจากความรัก ความสัมพันธ์ทางร่างกายก็คงเป็นเรื่องฝืนใจ
เด็กหนุ่มตัวสูงนอนนิ่งก่ายท่อนแขนคาดตา เขาไม่อยากมองคนตัวเล็กที่กำลังเคลื่อนไหวบนตัวเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
แม้ว่ามันจะรู้สึกดีทางร่างกาย แต่ทางจิตใจมันก็พังไม่มีเหลือเหมือนกัน
มันไม่จบลงแค่วันนั้น
เด็กหนุ่มกลัวตอนกลางคืนทุกครั้งเมื่อเสียงประตูเปิดออก
กลอนที่ล็อกไปอย่างดิบดีนั้นไม่มีผลกับคนที่เป็นเจ้าของบ้านผู้ซึ่งมีกุญแจทุกดอกอยู่ในกำมือ
เด็กหนุ่มนอนตัวเกร็งเมื่อถูกคนตัวเล็กสัมผัสที่ต้นคอ ขบจูบเบา ๆ อย่างเสน่หาพร้อมหายใจรดเบา
ๆ จนร่างกายที่ไม่รักดีตื่นตัวขึ้นมา
มันเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
แม้สมองจะบอกว่าไม่ต้องการแค่ไหน แต่เขาก็ไม่เคยหนีบยอนแบคฮยอนไปได้เลย
“ขึ้นรถเร็วเข้า พี่หิวแล้ว”
น้ำเสียงนั้นไม่ได้แฝงไปด้วยความเสน่หาเหมือนตอนเข้าไปในห้องของเขา
เด็กหนุ่มยืนนิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะเปิดประตูฝั่งข้างคนขับแล้วแทรกตัวเข้าไป
ชานยอลไม่ได้เป็นโรคกลัวที่แคบ
แต่รถยนต์คันนี้กลับทำให้หายใจได้ไม่ทั่วท้อง เขาไม่แม้แต่จะหันไปมองคนข้าง ๆ
หรือเอ่ยปากชวนคุย เด็กหนุ่มภาวนาในใจว่าให้รถคันนี้ขับไปถึงบ้านเร็ว ๆ
เขาจะได้หาเรื่องออกไปข้างนอกแล้วขอค้างกับเพื่อนสนิทสักคืน
ใบปัดน้ำฝนเริ่มทำงานเมื่อสายฝนตกลงมา แต่ไหนแต่ไรถนนเส้นนี้ก็รถติดอยู่แล้ว
พอฝนตกเลยทำให้การจราจรติดขัดยิ่งขึ้นไปอีก ไอความเย็นทำให้กระจกขึ้นฝ้าขาว
เสียงเพลงสากลแนวอีโรติกที่พี่แบคฮยอนชอบฟังยังคงช่วยทำลายความเงียบได้เป็นอย่างดีเหมือนตอนขามา
“ช่วงนี้เห็นอ่านหนังสือหนัก
ใกล้สอบแล้วเหรอ?”
“เปล่าครับ”
“ว้าว งั้นแสดงว่ามาจากความขยัน”
“ผมอยากเรียนให้จบภายในสามปีครึ่งน่ะ
พี่ซูโฮลำบากเพราะผมมามากแล้ว” ชานยอลไม่ได้สนใจหันไปมองว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังทำหน้าแบบไหน
เด็กหนุ่มเพียงแค่ทอดสายตาไปยังท้องถนนที่อัดแน่นไปด้วยรถยนต์
“อยากช่วยพี่ชายใช้หนี้เหรอ”
“...”
“ถ้าพี่ซูโฮรู้คงปลื้มที่มีน้องชายน่ารักแบบนี้”
“ความจริงเราไม่ต้องคุยกันก็ได้”
“นายก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้”
“...”
เด็กหนุ่มหลุบสายตาลงมองมือเล็กที่เลื่อนมาวางลงบนเป้ากางเกงเขา
ลูบไล้เบา ๆ ทั้งที่สายตายังคงทอดมองไปยังเบื้องหน้า “ยังคิดหนีไปจากพี่อยู่เหรอ?”
“...”
“พยายามไปทำไม ทั้ง ๆ
ที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันเปล่าประโยชน์” เด็กหนุ่มขบกรามแน่น
พยายามหายใจเข้าลึก ๆ
เพื่อสงบสติอารมณ์จากมือเล็กที่กำลังเคล้นคลึงส่วนนั้นจนมันพองนูนคับกางเกง
“พอสักที”
ชานยอลจับข้อมืออีกคนไว้ก่อนจะหันไปสบตากัน แววตาคู่นั้นกำลังมองมาอย่างท้าทาย
แน่นอนว่าพี่แบคฮยอนไม่เคยแพ้ถ้าเป็นกับผู้ชายเด็กโง่ ๆ อย่างเขา
“ถ้าอยากให้หยุด...
ก็จับมือพี่ออกสิ”
“...”
“บอกว่าเกลียดพี่ พูดมันออกมา”
เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนต้องมนต์สะกด ราวกับว่าแววตาคู่นั้นกำลังขู่ให้เขาคิดดี
ๆ ก่อนจะพูดออกมา ชานยอลไม่ได้รู้สึกดีกับความสัมพันธ์แบบนี้
สมองของเขาบอกอยู่เสมอว่าไม่ชอบที่ต้องอยู่ใกล้พี่แบคฮยอน แต่ก็ไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า ‘เกลียด’
“ทำไมล่ะ ไม่กล้าเหรอ
หรือว่ากลัวพี่เสียความรู้สึก?”
“หยุดบังคับผมสักที...”
“ลองคิดดูให้ดีว่าพี่เคยบังคับนายสักครั้งหรือเปล่า?” ชานยอลหลับตาลงทันทีที่อีกฝ่ายกรีดนิ้วชี้ลงมาตามสันกรามเขาก่อนจะลากลงมาถึงต้นคอจนทำให้ขนอ่อนลุกซู่อย่างห้ามไม่ได้
“ใช่ว่านายจะปฏิเสธพี่ไม่ได้เสียเมื่อไหร่กัน?”
“...”
“ปากปฏิเสธ แต่ร่างกายนายออกจะรักพี่เสียขนาดนี้”
“...ผมไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับพี่”
“เหรอ ใครแคร์ล่ะ?” คนตัวเล็กลากมือลงไปหยุดอยู่ตรงหัวเข็มขัดกางเกงอีกฝ่าย
สอดมือเข้าไปหาความอุ่นร้อนแล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจทันทีที่รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ตื่นตัวอยู่ในมือ
“อย่า... ผมไม่อยากเกลียดตัวเองมากไปกว่านี้แล้ว”
“ไม่เป็นไร...
แฟนนายจะไม่มีวันรู้แน่พี่สัญญา”
“อย่า... อา...”
เด็กหนุ่มหลับตาแน่นหอบหายใจหนัก
กับมือเล็กที่กำลังเคล้นคลึงส่วนแข็งขืนใต้กางเกงก่อนที่ซิปเหล็กจะถูกรูดลง
ชานยอลเอนหลังพิงกับเบาะพลางขบกรามแน่น เขาไม่อยากส่งเสียงออกมาในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้
ที่นี่มันในรถ คนตัวเล็กควรจะอายฟ้าดินบ้าง
แต่อย่างที่เขารู้ดีว่าไม่มีอะไรหยุดพี่แบคฮยอนได้
เด็กหนุ่มได้แต่มองออกไปนอกรถเพื่อสังเกตการณ์ว่าจะมีใครมองทะลุฟิล์มดำเข้ามาหรือเปล่า
ระหว่างที่คนตัวเล็กประคองท่อนเอ็นแข็งขืนออกมาแล้วใช้ปากครอบมันจนเกือบสุดความยาว
เด็กหนุ่มนั่งตัวเกร็ง
ความเสียวซ่านแล่นปราดไปทั้งร่างกายจนเผลอสวนสะโพกเข้าหาโพรงปากอุ่นร้อนเพื่อความกระสันที่ล้ำลึกยิ่งขึ้น
ชานยอลเกลียดตัวเองที่ปากไม่ตรงกับใจ
ทั้งที่พยายามหนีอีกฝ่ายแทบตายแต่สุดท้ายเขาก็ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกอยู่ดี
คนตัวเล็กเอียงหน้าปรับองศาราวกับอยากยั่วให้เขาสติแตก
สายตาที่มองมาระหว่างใช้ลิ้นเลียส่วนโคนนั้นเป็นสัญญาณบอกว่าปาร์คชานยอลกำลังนอกใจคิมมินซอกอย่างสมบูรณ์แบบอีกครั้งโดยคน
ๆ เดิม
“กระตุกใหญ่เลยนะ
สงสัยจะไม่ไหวแล้ว”
เกลียด... เขาเกลียดเสียงพี่แบคฮยอนที่เอาแต่ตอกย้ำความเลวของเขา
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นสูดปากอย่างไม่ตั้งใจเมื่อลิ้นเล็กกระหวัดเลียส่วนปลาย
ดูดดึงจนเกิดเสียง ครูดฟันเบา ๆ ราวกับจงใจอยากแกล้ง ชานยอลไม่หลงเหลือสติใด ๆ
อีกแล้วหลังจากถูกคนตัวเล็กพังมัน
ซิปเหล็กที่ครูดแกนกายไปพร้อม ๆ
กับโพรงปากอุ่นนั้นเสียวเป็นบ้า เด็กหนุ่มตัวสูงครางแผ่วพลางกำมือแน่น
ก่อนจะลืมตามองอีกฝ่ายที่คว้ามือเขาไปแกะเรียวนิ้วให้คลายออก พร้อมแลบลิ้นเลียทีละนิ้วเหมือนไอติมแท่งโปรด
ขอบตาของคนเจ้าเล่ห์ถูกกรีดด้วยอายไลน์เนอร์
ปาร์คชานยอลเกลียดตัวเองที่กำลังมีอารมณ์อย่างหนักเพียงเพราะเห็นว่าคนตัวเล็กกำลังดูดนิ้วเขาก่อนจะสลับเป็นไล้เลียไปจนสุดความยาว
“พี่นี่มันบ้าจริง ๆ แบคฮยอน”
“กลับบ้านกันนะ ไปที่ห้องพี่...” ดวงตาคู่นั้นฉ่ำเยิ้มคล้ายว่ากำลังจะทนไม่ไหว
ชานยอลไม่ได้ปฏิเสธหรือขานตอบตกลงแต่อย่างใด
เด็กหนุ่มเพียงแค่พยายามประคับประคองลมหายใจเมื่ออีกฝ่ายหันไปสนใจกับถนนเบื้องหน้าที่รถรากำลังเคลื่อนตัวออก
“อืม...”
ร่างของเด็กหนุ่มถูกผลักลงบนเตียงก่อนจะถูกคร่อมทับด้วยคนตัวเล็ก
ชานยอลเงยหน้าขึ้นรับรสจูบเร่าร้อนแล้วปล่อยให้คนอายุมากกว่าถอดเสื้อจนท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า
เด็กหนุ่มไม่ได้ช่วยอีกฝ่ายจัดการกับอุปสรรคในการทำเรื่องทุเรศในครั้งนี้ ร่างสูงเพียงแค่นั่งเฉย
ๆ จนกระทั่งกางเกงยีนส์ถูกร่นลงไปกองอยู่ที่หัวเข่า
ท่อนเนื้อขนาดใหญ่ที่ถูกปลุกเร้าตั้งแต่บนรถถูกประคองไว้ด้วยมือเล็ก
แบคฮยอนไม่ลังเลที่จะมอบความสุขให้ตนเองและอีกฝ่ายก่อนที่เกมรักจะเริ่มต้นอีกครั้ง
เสียงซี๊ดปากของเด็กหนุ่มปลุกอารมณ์จนแทบอยากข้ามขั้นตอน
เขาชอบตอนชานยอลแสดงออกทางสีหน้าว่ากำลังเสียวสุด ๆ แต่ดวงตาคู่นั้นกลับย้อนแย้ง
มองเขาเหมือนว่ารังเกียจนักหนา
แต่การกระทำย่อมสำคัญกว่าคำพูด ชานยอลก็แค่กลัว
เด็กวัยรุ่นมักจะถูกความสับสนปั่นป่วนอยู่เสมอเขาเองก็เคยผ่านช่วงชีวิตตอนนั้นมาแล้ว
คนตัวเล็กครูดฟันบนท่อนเนื้อแข็งแล้วดูดแรง ๆ จนอีกคนครางสั่น
ชานยอลเด้งสะโพกสวนมาอย่างลืมตัวจนฝ่ายกระทำอดที่จะยิ้มพอใจไม่ได้
“อะ... จะออกแล้ว”
เด็กหนุ่มกัดฟันแน่นพลางมองกลุ่มผมสีบรอนด์สว่างที่กำลังผงกศรีษะขึ้นลงตรงส่วนกลางลำตัวโดยไม่ผ่อนจังหวะ
พี่แบคฮยอนรู้ดีว่าต้องทำยังไงร่างกายของเขาถึงจะเชื่องเหมือนลูกหมา
ชานยอลอ้าปากค้างผ่อนลมหายใจหนัก ๆ เกร็งตัวแน่นเมื่อปลดปล่อยเข้าไปในโพรงปากร้อน
นัยน์ตาคมหลุบมองคนตัวเล็กที่ถอนปากออกมาจากส่วนแข็งขืน
เด็กหนุ่มนึกอยากตาย ๆ ไปซะเมื่อเขากำลังรู้สึกดีเป็นบ้าที่ได้เห็นสีหน้าอีกฝ่ายตอนปล่อยให้น้ำสีขาวขุ่นไหลออกมาจากปากจนเลอะปลายคาง
“กินมันเข้าไปสิ ชอบนักไม่ใช่เหรอ” ทั้งโกรธตัวเอง และโกรธอีกฝ่ายที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้
ชานยอลสบตากับคนตัวเล็กที่เขาไม่เคยอ่านความรู้สึกผ่านทางแววตาออกเลย
พี่แบคฮยอนกำลังคิดอะไรอยู่ นั่นคือสิ่งที่ไม่เคยรู้
เรียวนิ้วยาวปาดคราบน้ำขาวขุ่นเข้าปากอย่างไม่รังเกียจ
ตวัดลิ้นเลียแล้วกลืนลงคอขณะสบตากับเขา
ชานยอลนั่งนิ่งขณะที่อีกฝ่ายลุกขึ้นถอยหลังไปสองก้าว
ถอดเสื้อและกางเกงลงไปกองบนพื้นไม่เหลืออะไรให้ปกปิดร่างขาวสะอาดอีก เด็กหนุ่มมองภาพตรงหน้าก่อนจะหลับตาลงเมื่อคนตัวเล็กโอบแก้มเขาเอาไว้
ก่อนจะแนบหน้าท้องแบนราบกับจมูกของเขา
“อย่าไปจากพี่นะ”
“...”
“เกลียดพี่ไปอย่างนี้
ให้พี่ได้อยู่กับนายทุกวัน”
“...”
“อย่าทิ้งพี่... ชานยอล”
คนตัวเล็กจงใจถูหน้าท้องกับปลายจมูกเขาจนเผลอผ่อนลมหายใจรดลงไป
เด็กหนุ่มปรือตามองอีกฝ่ายที่เชยคางเขาให้เงยหน้าขึ้น คำขอร้องบ้า ๆ
นั่นมันใช้ได้ผลเมื่อเขาไม่กล้าปฏิเสธ
ปาร์คชานยอลควรเกลียดบยอนแบคฮยอนหรือควรเกลียดตัวเองดี?
ความย้อนแย้งนี้กำลังทำให้เด็กหนุ่มเป็นบ้า
ที่พยายามวิ่งหนีเท่าไหร่ แต่กลายเป็นว่าลึก ๆ แล้วเขาก็ต้องการพี่แบคฮยอนอยู่เช่นกัน
คนตัวเล็กนั่งลงบนตักหนาทั้งที่ยังแลกจูบอยู่ไม่ห่าง
สองมือที่เคยโอบแก้มเลื่อนขึ้นสอดกลุ่มผมสีเข้มของเด็กตัวสูงพร้อมบดเบียดสะโพกเข้าหาท่อนเอ็นที่ตื่นตัวอีกครั้งหลังจากปลดปล่อยไปเมื่อครู่
“อืม...”
แบคฮยอนขบริมฝีปากล่างเด็กหนุ่ม ดูดดึงเบา ๆ
ก่อนจะปล่อยออกมาสบตากัน ชานยอลกำลังถูกเขามอมเมา
ครั้งแล้วครั้งเล่าแต่มันก็ไม่เคยพอ แบคฮยอนไม่ได้อยากเอาชนะใคร
แต่การร้องขอความรักจากคนที่ถูกใจนั้นใช่ว่าจะได้ผลเสมอไป
เด็กหนุ่มล้มลงไปนอนราบกับเตียง
หัวใจเต้นระรัวขณะมองอีกฝ่ายคุกเข่าคาบช่วงกลางลำตัวของเขา พร้อมคายน้ำลายใส่มือก่อนจะแทรกนิ้วเข้าไปในช่องทางด้านหลังของตนเอง
“อา...”
ชานยอลหายใจไม่เป็นจังหวะกับภาพหวาดเสียวตรงหน้า
สองนิ้วที่สอดเข้าไปเปิดช่องทางขยับเร็วถี่จนได้ยินเสียงน้ำหล่อลื่น
มือข้างที่วางอยู่เลื่อนมากอบกุมแกนกายที่ตื่นตัวเต็มที่
พี่แบคฮยอนกำลังช่วยตัวเองต่อหน้าเขาที่กำลังจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
“ชานยอล... อา... ชานยอล...”
ยังคงยืนยันว่ากลียดเสียงอีกฝ่ายที่เอาแต่พร่ำเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยเด็กหนุ่มชอบที่จะได้ยินมัน ชานยอลเลียริมฝีปากอีกครั้ง
เขาพยายามกักกั้นความรู้สึกตนเองให้คงที่โดยไม่โผเข้าไปดูดดึงยอดอกอีกฝ่ายที่แข็งเป็นไตเพราะความกระสันจากช่องทางด้านล่าง
“ผมไม่หลงกลพี่หรอกนะ... แบคฮยอน”
“ฮะ... ใครสนล่ะ?”
คำพูดติดปากของอีกฝ่ายทำให้เขาหัวเสียทุกครั้ง
เด็กหนุ่มจับคนตัวเล็กนอนราบกับผืนเตียงพร้อมแยกเรียวขาออกกว้างเพื่อเตรียมรับความใหญ่โตเข้าไป
หมดความอดทนแล้ว ที่จริงคนอย่างบยอนแบคฮยอนไม่ควรได้รับมันจากเขาเลยด้วยซ้ำ
คนอวดดีแถมชอบบังคับคนอื่นแบบนี้น่ะ...
น่าโมโหเป็นบ้า...
แบคฮยอนตกใจกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำ
แต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้นรอยยิ้มก็แต่งแต้มลงบนใบหน้าคนเจ้าเล่ห์ คนตัวเล็กยันศอกลงกับเตียงแล้วผงกศีรษะมองท่อนเอ็นแข็งขืนที่กำลังแทรกเข้ามาในช่องทางด้านหลังที่เพิ่งเบิกทางไป
กัดริมฝีปากล่างกับความเสียวซ่านขนาดใหญ่ที่ครูดกับผนังด้านในจนต้องโยกสะโพกรับ
สายตาเจ้าของร่างกำยำอ่านได้ไม่ยากนัก ตอนนี้ชานยอลคงกำลังหงุดหงิดสุด ๆ เลยอยากสั่งสอนเขาให้สำนึก
ซึ่งบยอนแบคฮยอนก็พร้อมเสียด้วยสิ
“ไม่คิดจะหาแฟนเป็นตัวเป็นตนหรือไง?”
“อา... อยากให้พี่มีคนอื่นเหรอ”
“ผมถาม พี่ก็ควรตอบ... อืม...” คนตัวเล็กหัวเราะปนหอบกระเส่า
ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังกระแทกกายเข้ามาอย่างหนักจนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นไปทั่วห้อง
“ถ้าอยากให้มี...
เดี๋ยวพี่มีก็ได้... อ๊า!”
“ก็ดี... พี่จะได้ไปจากผมสักที...
ซี๊ด...”
“รู้ตัวไหมว่าหึงแล้วชอบทำแรงขึ้น
อ๊ะ ชานยอล อา... ตรงนั้น... แรงอีกสิ”
“พี่นี่มัน...”
เด็กหนุ่มบีบคางมนที่กำลังยิ้มพอใจพร้อมกระทั้นแกนกายแข็งขืนเข้าหาช่องทางด้านหลังอย่างแรง
คนตัวเล็กแยกเรียวขาออกกว้างพร้อมสอดแขนเข้าไปใต้ขาพับเพื่อให้อีกฝ่ายส่งความเสียวซ่านเข้ามาได้ล้ำลึกยิ่งขึ้น
ส่งเสียงครางลั่นกับความใหญ่โตที่เด็กหนุ่มมอบให้
“พี่มีแค่นาย... อา... แค่นาย...”
“...”
“จูบพี่... อะ ...ชานยอล”
เด็กหนุ่มมองดวงตาคู่นั้นที่กำลังร้องขอเอาความรักจากเขา
เจ้าของชื่อถอนหายใจอย่างหัวเสียก่อนจะก้มลงไปบดขยี้ริมฝีปากที่สมองบอกว่าเกลียดนักหนาแต่หัวใจก็ไล่ไปไหนไม่ได้
สะโพกสอบซอยเข้าออกอย่างหนักหน่วง ยิ่งตอนช่องทางรักขมิบตอดรัดดูดดึงราวกับไม่ยอมให้หลุดไปก็ยิ่งรู้สึกดี
เสียงน้ำหล่อลื่นที่ไหลออกมาจนเปรอะสะโพกยามกระทบหน้าขานั้นหวาดเสียวจนต้องเร่งจังหวะยิ่งขึ้นไปอีก
“อะ... อ๊ะ... อ๊า!”
“ผมจะเสร็จแล้ว!”
“อา... ป... ปล่อยมาเลย...”
แผ่นหลังบางแอ่นขึ้นจนลอยเหนือผืนเตียง
เรียวขาที่พาดไหล่กว้างแข็งเกร็งจิกปลายเท้ายามท่อนเอ็นหมุนควงในช่องทางรัก
ชานยอลใช้มือข้างหนึ่งรูดรั้งแกนกายเล็กที่เสียดสีกับหน้าท้องแบนราบ แบคฮยอนครางลั่นขยำผ้าปูที่นอนแน่นก่อนจะปลดปล่อยออกมาจนน้ำขาวขุ่นพุ่งขึ้นไปเลอะถึงเนินอกขาว
เด็กหนุ่มแหวกสะโพกแน่นมือออกแล้วกระแทกกายเข้าไปไม่หยุด
มองร่างของคนอวดดีที่กำลังไถลไปกับผืนเตียงยามแกนกายเข้าไปจนสุด
มือเล็กไล้น้ำเหนียวหนืดลงบนแผงอกตนเอง ยั่วยวนเด็กหนุ่มที่ใบหน้าเหยเกยามใกล้ถึงฝั่งฝัน
“อา... ซี๊ด...”
รู้สึกได้ถึงความร้อนที่ฉีดเข้ามาในช่องทางรัก
แบคฮยอนขมิบตอดรัดแกนกายใหญ่โตที่ยังคงคาอยู่ไม่ถอดถอนออกไป ชานยอลหอบหายใจหนักพลางมองอีกฝ่าย
ชั่วอึดใจเลยทีเดียวที่ทั้งคู่หยั่งเชิงกันทางสายตา ก่อนที่คนตัวเล็กจะยื่นมือทั้งสองข้างออกมา
เพื่อขอไออุ่นจากคนที่แสดงออกว่ารังเกียจตนเองมาตลอด
ชานยอลใช้เพียงเสี้ยววินาทีในการตัดสินใจ
ก่อนจะโน้มตัวลงไปให้อีกฝ่ายกอด เราก็จูบกันอีกครั้งจนแทบขาดอากาศหายใจ
คนตัวเล็กไม่ยอมให้เขาถอนกายออกไหน เรียวขาทั้งสองข้างยังคงเกี่ยวรัดรอบเอวเขาไว้พร้อมขยิบตอดรัดเย้ายวน
ตามด้วยเสียงกระซิบที่ทำให้รู้ว่าเขาไม่สามารถหลีกหนีคน ๆ นี้ไปได้อีกแล้ว...
ปาร์คชานยอลได้ตกเป็นของบยอนแบคฮยอนโดยสมบูรณ์แบบ
“รอบหน้าเกลียดพี่ให้แรงกว่านี้สิ...”
THE END
ใจคอจะเขียนแต่ฟิคเยกันอย่างเดียวเลยใช่ไหม
นังชั่ว นังคนบาป เอามันไปประหาร!!!
แต่ก่อนประหารอย่าลืมสครีมแท็ก #แก้บนสิมลิน นร๊
หนูอยากให้มีต่ออีกตอนจังคะออนนี่คะ ได้โปรด ต่ออีกหนึ่งตอนนะคะ นะคะ นะนะนะนะนะ นะคะ นะ /อ้อน
ตอบลบอื้อออ อ๊ะ! อ๊ะ! มันส์มากกก ต่ออีกนะคะ 5555 ><
ตอบลบต่ออีกสักตอนนะคะออนนี่ ><
ตอบลบกระอักเลือดตายคาที่ #พี่มลินลั่นบ่อยจัง 555555
ตอบลบแต่หนูช๊อบชอบบบบบบบ😆
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ