“แค่อยากรู้น่ะ” คนตัวเล็กหลับตาลงพร้อมจูบปลายคางอีกคนเบา ๆ ก่อนจะผละออกมาสบตากัน “แล้วถ้าเราไม่ได้เป็นคนแบบนี้... ชานยอลจะชอบหรือเปล่า”
เสียงกระซิบของคนตัวเล็กกระตุ้นอารมณ์ดิบ ชานยอลวางมือลงบนสะโพกมน
พร้อมลูบเบา ๆ จนเชิ้ตสีขาวถลกขึ้นเล็กน้อย “แบบไหนกันนะ คำถามกว้างเป็นแผนที่โลกเลย”
“แบบนี้...”
ป๋ายเซียนจับมืออีกฝ่ายลูบไปตามต้นขาตนเอง ก่อนจะส่งเสียงครางหวิวกับสัมผัสจากมือใหญ่
ชานยอลหัวเราะในลำคอเบา ๆ จนถึงตอนนี้ผู้ชายตัวโตก็ยังคงคิดว่าเขากำลังยั่วเล่นสินะ
ป๋ายเซียนผ่อนลมหายใจรดต้นคอแกร่ง เขาต้องการคำตอบที่ชัดเจนภายในคืนนี้
“หลังถ่ายแบบเสร็จแล้ว ชานยอลอย่าหายไปได้ไหม”
“เราไม่ได้คุยกับป๋ายเซียนเพราะแค่เรื่องเป็นนายแบบให้สักหน่อย
ยังคิดมากอยู่เหรอ”
“อือ” คนถูกยั่วกำลังหายใจลำบาก
ชานยอลรอดูท่าทีว่าตอนนี้ป๋ายเซียนแค่แกล้งปั่นป่วนเขาเล่น ๆ เหมือนทุกครั้ง
หรือว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราทั้งคู่จะจ้ำจี้กันจริง ๆ สักที “เราน่ะ...”
“จ๋า...” ชานยอลกดจูบลงบนหน้าผากมนพร้อมถอนหายใจหนัก
ๆ ระหว่างที่เรือนร่างคนตัวเล็กกำลังขยับเสียดสีกระตุ้นอารมณ์แม้ไม่ได้ถอดเสื้อผ้า
“อยากมีอะไรกับชานยอล” ป๋ายเซียนริดกระดุมเสื้ออีกคนออกทีละเม็ด พร้อมช้อนตามองอีกฝ่ายที่กำลังซี๊ดปากกับความวาบหวิวที่เขามอบให้
“แต่ถ้าทำ... เราจะถูกทิ้งหรือเปล่า?”
“พูดอะไรอย่างนั้น...”
“ปฏิเสธสิ”
คนตัวเล็กสอดมือเข้าไปในกางเกงนอนอีกคน พร้อมกอบกุมส่วนแข็งขืนไว้ด้วยมือเล็ก
แม้จะประหม่าแทบตาย แต่สิ่งที่บยอนป๋ายเซียนกำลังทำคือการสวมรอยเป็นพี่ชายเพื่อให้มีความกล้ามากขึ้น
“เราเคยได้ยินเรื่องชานยอลมานักต่อนัก จนกลัวว่าจะถูกทิ้งเหมือนคนอื่น
ๆ”
“อ่า...”
“หยุดที่เราได้ไหม...” แค่คำพูดอาจจะไม่มีน้ำหนักมากพอ คนตัวเล็กจึงใช้มือเป็นตัวช่วย
ชานยอลซี๊ดปากอย่างหวาดเสียวกับมือเล็ก ๆ ซึ่งกำลังเค้นคลึงแก่นกายที่มันแข็งขืนจนปล่อยน้ำเหนียวหนืดออกมาจากส่วนปลาย
“หยุดสิ ตอนนี้เราก็หยุดแล้ว...”
“ต่อให้จะมีเราอีกคน... ชานยอลจะชอบเราแค่คนเดียวได้หรือเปล่า?”
“ฮะ... ป๋ายเซียนมีโคลนนิ่งด้วยเหรอหรือไงหืม?” คนตัวเล็กสะดุ้งสุดตัวเมื่ออีกฝ่ายตอบโต้กลับมาด้วยมือหนาที่ฟาดลงบนสะโพกเขาพร้อมออกแรงขยำ
“เร็วสิที่รัก ทำให้มันแข็งกว่านี้...”
ป๋ายเซียนหน้าขึ้นสีระเรื่อ
ใช้มือรูดรั้งความใหญ่โตตั้งแต่ส่วนปายไปจนถึงโคน
พร้อมคลึงรูเล็กตรงส่วนหัวมนจนฉ่ำไปด้วยน้ำหล่อลื่น ขนาดของมันต่างจากในร้านอาหารวันนั้นอย่างสิ้นเชิง
ชานยอลคงมีอารมณ์มากถึงได้ตื่นตัวถึงขนาดนี้
“ที่คนอื่นพูดกัน เราคงนิสัยไม่ดีมากเลยใช่ไหม?”
“ใช่”
ป๋ายเซียนกลั้นเสียงครางที่เกิดจากมือใหญ่ซึ่งกำลังสอดเข้าไปใต้กางเกงในของเขา “อ๊ะ!”
“งั้นทำไมถึงมาค้างกับเราล่ะ
ทั้งที่รู้แล้วว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไง” ป๋ายเซียนกำลังเสียเปรียบ
เมื่อตอนนี้ฝ่ายที่ควบคุมสถานการณ์ได้ตกเป็นของปาร์คชานยอลแล้ว
อากาศที่ว่าหนาวจากแอร์คอนดิชันเนอร์ก็ช่วยอะไรไม่ได้เมื่ออารมณ์ต้องการมันปะทุขึ้นมา
เขามองอีกคนที่ยันตัวขึ้นยืนเข่า พร้อมถอดเสื้อนอนออกจนเห็นเรือนร่างกำยำ
‘นอนคือนอน
ถ้ายอมให้มันทำเกินเลยกว่านั้น...
รับรองได้เลยว่าคืนนี้มึงจะได้เห็นหน้าปาร์คชานยอลเป็นครั้งสุดท้าย’
คำขู่ของพี่ชายฝาแฝดยังตามมาหลอกหลอนจนถึงวินาทีนี้
แต่ป๋ายเซียนก็ยังอยากลองหาคำตอบต่อไป แต่ทุกอย่างก็เลือนหายภายในพริบตาเมื่อคนตรงหน้าร่นกางเกงลงจนท่อนเอ็นแข็งขืนดีดผึงออกมา
ป๋ายเซียนอ้าปากอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ อยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ต้องกลืนคำพูดลงคอหลังจากเห็นสีหน้าซึ่งเต็มไปด้วยอารมณ์ของอีกฝ่าย
จนถึงตอนนี้ป๋ายเซียนยังไม่ได้ตอบคำถามขอคนตัวโตกว่า
เขากำลังเกร็งเพราะทำตัวไม่ถูกเมื่อทุกอย่างกำลังเลยเถิดเข้าไปทุกทีแล้ว
เสื้อเชิ้ตที่สวมใส่ถูกชานยอลปลดกระดุมจนถึงช่วงอก
ก่อนที่สองมือจะแหวกออกจนเห็นความขาวของเนินผิว
ป๋ายเซียนเม้มริมฝีปากแน่นกับความรู้สึกที่แล่นไปทั้งร่างกาย
เพียงเพราะอีกฝ่ายลงลิ้นกับยอดอกสลับดูดดุนจนแข็งเป็นไต ป๋ายเซียนครางหวิว
แอ่นหลังขึ้นรับลิ้นร้อนอย่างห้ามไม่อยู่ ให้ตายเถอะ... ชานยอลกำลังแหวกกางเกงในของเขาออกแล้วแทรกนิ้วเข้าไป
จะทำยังไงดี...
ทั้งคำพูดของแบคฮยอนและอารมณ์ที่เกิดขึ้นเพราะชานยอล ความรู้สึกทุกอย่างกำลังตีกันไปหมด...
“ระ... เรา...
เราคิดว่าคงเปลี่ยนชานยอลได้”
------------------------------------------------------------
อ่านต่อในนี้จ้า http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1434000&chapter=9
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น