“แต่ที่ฉันรู้ก็คือ จะไม่มีใครต้องเดินลงไปรอข้างล่าง”
เซฮุนไม่รู้ว่าหยดน้ำที่ไหลออกจากหางตามาจากความเศร้าหรือความดีใจกันแน่
มันจริงอย่างที่ใคร ๆ เคยบอกไว้
ว่าคนเราจะไม่เห็นคุณค่ากับสิ่งที่มีอยู่จนกว่าจะสูญเสียมันไป
แต่การที่ครั้งหนึ่งเซฮุนเสียจงอินไป นั่นเป็นเพราะความอ่อนแอของตนเอง
ที่คิดแทนคนอื่นว่าทุกอย่างต้องพังลงถ้าหากเลือกทางนั้น
ในขณะที่หนทางของเขามันแย่ยิ่งกว่าทางไหน ๆ เสียอีก
เราต่างฝ่ายต่างประหม่า
อาจเป็นเพราะสถานะและช่วงเวลาที่ขาดหายไปจึงทำให้เป็นอย่างนี้ เซฮุนโอบใบหน้าอีกคน
ก่อนจะปิดเปลือกตาลงรับจูบอีกครั้ง มันไม่เคยพอเลย กับความเจ็บปวดที่เราต่างได้รับในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านไป
จงอินจับข้อมือคนใต้ร่างคล้องคอตนเองเอาไว้
พร้อมปรับองศาใบหน้าเพื่อรสจูบที่แนบแน่นยิ่งขึ้น
มันจริงที่มนุษย์อยู่ได้ด้วยการหายใจ
แต่ตอนนี้คงไม่ใช่สำหรับเด็กหนุ่มสองคนบนเตียงซึ่งกำลังชดเชยเวลาที่เสียไปด้วยริมฝีปากจนไม่คิดผละออกมาหายใจ
จากจูบที่เคยเต็มไปด้วยความประหม่า
ก็ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นความคิดถึงที่ต่างฝ่ายต่างกักเก็บมานาน
มือของจงอินเย็น ส่วนตัวของเซฮุนนั้นร้อนเหมือนไฟ
และนั่นทำให้เขาอยากบดเบียดร่างกายเข้าหาความเย็นเหล่านั้นเพื่อทุเลาความร้อน
เด็กหนุ่มผิวแทนรั้งเอวบางเข้าหาตัว บดขยี้ริมฝีปากคนป่วยอย่างไม่กลัวเจ็บแผล
คนป่วยปรือตามองอีกคนที่จับมือของเขาไปจูบอย่างทะนุถนอม
เซฮุนรู้สึกดีเหลือเกินที่ได้รับความอบอุ่นจากผู้ชายคนนี้อีกครั้ง
อาจเป็นเพราะบรรยากาศพาไป หรือเป็นเพราะความต้องการในเบื้องลึก
ที่ทำให้จงอินไม่ยอมหยุดแค่จูบ ทั้งคู่สบตากันในห้องสีสลัว
ก่อนเด็กหนุ่มผิวแทนจะนั่งคุกเข่าตรงหว่างขาของเขา
พร้อมถอดเสื้อออกจนเห็นท่อนบนเปลือยเปล่า
“...”
ไม่มีใครปล่อยคำถามโง่ ๆ ออกมาในเวลานี้
เราไม่ใช่เด็กประถมที่ต้องถามในสิ่งที่รู้อยู่แก่ใจ เซฮุนเผยอปากรับจูบอีกครั้ง
วันนี้ถ้าไม่ตายเพราะพิษไข้ก็คงได้ตายเพราะผู้ชายอย่างคิมจงอิน
คนป่วยส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ ทั้งรู้สึกดี
แต่ก็เขินแทบมุดแผ่นดินหนีเมื่ออีกฝ่ายเริ่มสอดมือเข้ามาในเสื้อ
“ตัวร้อน”
ลมหายใจของจงอินตอนรดซอกคอเขาก็ร้อนเหมือนกัน เซฮุนหลับตา
เม้มริมฝีปากแน่น หอบหายใจติดขัดเมื่ออีกฝ่ายกดจูบลงที่ต้นคอ ไล่ลงไปเรื่อย ๆ
ราวกับอยากปั่นประสาทให้ผู้ถูกกระทำตายเพราะถูกสัมผัส
ก่อนที่เสื้อนอนของเขาจะถูกถลกเสื้อขึ้นจนถึงช่วงอก
“ที่ตัวสั่น เป็นเพราะไม่สบายหรือเพราะมือฉันกันนะ?”
“...” เซฮุนไม่อยากพูดอะไรตอนนี้ เด็กตัวผอมแค่สบตากับคนที่คร่อมตัวเขาเอาไว้
ก่อนจะเอามือปิดปากอีกฝ่ายไม่ให้พูดอีก
แต่ดูเหมือนว่าจะแย่กว่าเดิม เมื่อจงอินหลับตาลงพร้อมจูบฝ่ามือเรียว
ก่อนจะค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงมาจนหลังมือติดริมฝีปากเขาในที่สุด เซฮุนเบิกตากว้าง
พร้อมมือที่ค่อย ๆ ถูกแกะออกจนเห็นรอยยิ้มของคนที่คร่อมอยู่บนร่าง
ทำไมต้องทำให้อายด้วยนะ... แค่นี้ก็รู้สึกเหมือนจะระเบิดอยู่แล้ว
ร่างกายมันเกร็งไปหมดเลย เซฮุนหลับตาแน่นเมื่ออีกคนกดจูบลงบนแผงอกของเขา
ยิ่งตอนลิ้นร้อนแตะลงบนยอดอกก็ยิ่งนอนอยู่เฉย ๆ ไม่ได้
เหมือนกับคืนวันฝนตกที่คังวอนโด... คืนที่เราเกือบทำเรื่องลามกด้วยกัน
เซฮุนกำผ้าปูที่นอนแน่น ลืมตามองภาพตรงหน้าเป็นพัก ๆ
เพราะไม่มีความกล้ามากพอที่จะมอง ให้ตายเถอะ...
กางเกงของเขาถูกร่นลงไปอยู่ที่หัวเข่า
ก่อนจงอินจะใช้เท้ายันลงไปจนมันหลุดออกจากข้อเท้า
ตามด้วยมือและริมฝีปากที่สัมผัสลงตรงนั้น
แผ่นหลังบางแอ่นขึ้นไม่ติดเตียงพร้อมครางเสียงกระท่อนกระแท่น
เซฮุนหอบหายใจติดขัด
เผลออ้าขาออกรับสัมผัสจากโพรงปากที่รั้งรูดส่วนนั้นในจังหวะไม่คงที่
มันเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนเผลอขย้ำกลุ่มผมสีเข้ม
เซฮุนกำลังรู้สึกดีมากจนอยากจดจำความรู้สึกเหล่านี้ไปนาน ๆ
ลิ้นของจงอินตอนกระหวัดโลมเลียอยู่กับช่องทางด้านหลังของเขา
สลับกับมือที่กำลังปรนเปรอส่วนนั้นชวนให้สติแตก ในหัวขาวโพลนไปหมด
แน่นอนว่าเซฮุนไม่เคยรังเกียจถ้าคน ๆ นั้นเป็นจงอิน
ความกลัวและความไม่แน่ใจระหว่างสถานะถูกกลบทิ้งด้วยโพรงปากร้อน
เร่งจังหวะให้เร็วขึ้นจนผู้ถูกกระทำครางระงมไม่ได้ศัพท์ เซฮุนยกมือขึ้นปิดปาก
เขาอายเหลือเกินที่เผลอสวนสะโพกเข้าหาความอบอุ่นจากโพรงปากอีกคน
“อะ-- อ๊า! จงอิน!”
เด็กหนุ่มตัวผอมกัดริมฝีปากล่างจนเลือดห้อ
ยันศอกไว้กับผืนเตียงพลางมองคนอีกคนที่ถอนริมฝีปากออกมา เซฮุนหน้าขึ้นสีจัดกับสีหน้าซึ่งเต็มไปด้วยต้องการ
พร้อมน้ำลายเหนียวที่ถูกลิ้นกวาดเข้าปากขณะสบตากับเขา
เราทั้งคู่ต่างรู้สึกผิดกับจื่อเทา
แต่เซฮุนก็ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกตัวเองอีกต่อไปแล้ว จะหาว่าเห็นแก่ตัวก็ได้
แต่ถ้าให้ต้องปล่อยมือจงอินไปอีกครั้ง... เขาก็ไม่ยอมเหมือนกัน
เด็กหนุ่มตัวผอมหลับตาแน่นกับความเจ็บที่ชำแรกเข้ามาในช่องทางด้านหลัง
จงอินมองคนป่วยที่ดูเหมือนว่ากำลังพยายามต่อสู้กับความขลาดอายของตัวเองอย่างหนัก
เมื่อเจ้าตัวเผลอเด้งสะโพกเข้าหาเรียวนิ้วอย่างไม่ตั้งใจ
เราสื่อสารกันด้วยสายตา และหวังว่าจงอินคงรับรู้ถึงความรักที่เขาไม่เคยทิ้งมันไว้ข้างหลัง
เด็กหนุ่มเงยหน้ารับจูบซึ่งไม่หลงเหลือความอ่อนโยนใด ๆ อีก มันรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ตามลำดับอารมณ์ที่กำลังทะยานขึ้นสูง
คนป่วยครางกระเส่า เขายิ้มบาง ๆ
ขณะมองใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยความต้องการของอีกฝ่ายขณะขยับเรียวนิ้วในช่องทางด้านหลัง
เซฮุนได้เรียนรู้กับสิ่งที่เรียกว่าความรัก
มันให้ทั้งความสุขและความเจ็บปวดไม่รู้ลืม อย่างเช่นตอนนี้
แม้รู้สึกเจ็บแทบทนไม่ไหว แต่เด็กหนุ่มตัวผอมก็ยังโอบกอดร่างคนตรงหน้าเอาไว้แน่น
พร้อมซบหน้าลงกับแผงอกกว้าง
จงอินผ่อนลมหายใจออกหนัก ๆ เขากำลังพยายามหักห้ามใจตนเองเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามลำดับ
เด็กหนุ่มผิวแทนก้มลงจูบขมับชื้นอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเลื่อนไปที่แก้มขาว
กดจมูกหอมอย่างแผ่วเบา เพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าต่อไปนี้เขาจะไม่ปล่อยมือไปไหนอีก
เราจูบกันครั้งแล้วครั้งเล่า และจงอินก็รู้ว่าตอนนี้เซฮุนคงพร้อมแล้ว
เด็กหนุ่มถอนนิ้วออกก่อนจะประคองสะโพกมนให้ลอยขึ้นทั้งที่ยังไม่ถอนจูบออก
ในวินาทีนี้เราคิดถึงสัมผัสของกันและกันมากกว่าจะถามอีกฝ่ายว่าตอนนี้สถานะระหว่างเราคืออะไร
จงอินจับท่อนกายแข็งขืนถูไถกับช่องทางด้านหลัง
มันชุ่มไปด้วยน้ำลายและน้ำหล่อซึ่งซึมออกมาจากส่วนปลายของแกนกายแข็งขืน
เซฮุนกัดริมฝีปากล่างแน่นเมื่ออีกฝ่ายดันส่วนหัวมนเข้ามาจนรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง
มันเจ็บยิ่งกว่าตอนเบิกทางด้วยนิ้วเสียอีก
แต่สุดท้ายช่องทางอุ่นร้อนก็รับความเป็นชายของอีกฝ่ายได้ในที่สุด
จงอินขบกรามแน่น มองร่างเปลือยเปล่าบนเตียงหลับตาครางกระเส่าพร้อมร่างซึ่งกำลังไถลไปตามแรงส่ง
ในทีแรกมันยากระหว่างเราทั้งคู่ เซฮุนคงเจ็บมากและเขาที่ถูกตอดรัดก็เช่นกัน
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเสียวซ่านจนไม่อยากหยุดลงแค่นี้
เสียงลมหายใจของเราตอนนี้น่าฟังกว่าอะไรทั้งนั้น
จงอินสวนสะโพกเข้าออกไม่ยั้งเมื่อความเจ็บปวดของคนใต้ร่างสิ้นสุดลง
ชื่อของเขาไม่เคยน่าฟังขนาดนี้มาก่อน
ยิ่งตอนเซฮุนเรียกด้วยน้ำเสียงคล้ายว่ากำลังจะขาดใจ
ยิ่งกระตุ้นความต้องการที่มีอยู่ให้พุ่งขึ้นสูงยิ่งกว่าเดิม
เซฮุนโอบใบหน้าคมเอาไว้ ก่อนจะหลับตา
เชิดหน้าขึ้นเมื่ออีกฝ่ายจูบลงบนปลายคางพร้อมสวนสะโพกเข้ามาอย่างหนักหน่วง
เสียงเนื้อกระทบเนื้อหยาบโลนดังกึกก้องไปทั้งห้อง
หากวันนี้คุณพ่อของจงอินอยู่ด้วยเขาคงไม่มีความกล้ามากถึงขนาดนี้
คนตัวผอมครางเสียงหลงยามอีกฝ่ายควงสะโพกเข้าหาช่องทางอุ่นร้อนอย่างไม่หยุดหย่อน
จิกเล็บลงบนไหล่กว้างบรรเทาความวาบหวามซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นชนวนจุดไฟในตัวอีกฝ่าย
ร่างเปลือยเปล่าถูกพลิกให้คุกเข่ากับผืนเตียง
เซฮุนปรือตามองอีกฝ่ายที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังกับผิวสีแทนน่ามอง
เราสบตากันอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนที่จงอินจะแหวกสะโพกมนออกพร้อมถูไถท่อนเอ็นกับร่องก้นจนเหนียวไปหมด
รู้สึกเสียวที่ช่องท้อง เมื่ออีกฝ่ายสอดใส่ความเป็นชายเข้ามาอีกครั้ง
คราวนี้มันลึกยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
ไม่อยากเชื่อเลยว่าความเจ็บปวดในครั้งแรกจะนำพามาจนถึงความหวาดเสียวแบบนี้ได้
จงอินซี๊ดปาก กับความคับแน่นที่เข้าไปได้จนมิดด้าม ช่องทางอุ่น ๆ
ด้านในยังคงต้อนรับและตอดรัดเป็นอย่างดี ราวกับเชิญชวนให้สอดใส่เข้าไปแรง ๆ
ยังไงอย่างนั้น เด็กหนุ่มผิวแทนมองแผ่นหลังขาวเนียนพร้อมแหวกแก้มก้นออก
มองท่อนเอ็นแข็งขืนที่ผลุบหายเข้าไปในนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่เหลือความอ่อนโยนใด
ๆ อีก
ทุกอย่างปะทุขึ้นเรื่อย ๆ
อารมณ์ไต่ระดับขึ้นมาจนเปลี่ยนเป็นความร้อนแรง
ยิ่งเห็นใบหน้าบิดเบี้ยวของคนตัวผอมที่เอี้ยวมาสบตากัน
กับสะโพกที่โก้งโค้งรับแรงกระแทกทั้งหมด คิมจงอินคนนี้ก็มีความคิดอยากรังแกโอเซฮุน
คนที่นอนกัดริมฝีปาก ส่งเสียงอื้ออึงเชิญชวนให้เขาไม่อยากออมแรง
“ไม่ไหวแล้ว... อะ... อา!”
เด็กหนุ่มก้มลงจูบแผ่นหลังขาวอย่างหลงใหลพร้อมสวนกายเข้าออกไม่หยุด
ลิ้นร้อนลากไปตามร่องกระดูกสันหลัง
ก่อนจะหยุดอยู่ที่ใบหูซึ่งกำลังขึ้นสีจัดเพราะแรงอารมณ์
“เซฮุน... อา... ซะ...” เสียงจงอินตอนซี๊ดปากอย่างซ่านเสียวข้างหูชวนให้ขนลุกซู่
เซฮุนเอี้ยวหน้าไปจูบกับคนที่ซ้อนอยู่ข้างหลังพร้อมแลกลิ้นจนน้ำลายซึมออกมาตามมุมปาก
เด็กหนุ่มผิวแทนปาดน้ำตาออกให้คนป่วยที่ส่งเสียงครางไม่หยุด
ร่างขาวสะอาดซบลงกับเตียงจนใบหน้าไถลไปตามแรงส่ง
ปล่อยให้อีกคนใช้มือชักรูดส่วนนั้นพร้อมกระแทกกระทั้นท่อนเอ็นเข้ามาจนกว่าจะพอใจ
จงอินขบกรามแน่น
ครางพอใจในลำคอพร้อมซอยสะโพกเข้าหาช่องทางอุ่นร้อนที่ตอดรัดแน่นจนแทบบ้า
แขนขาวถูกรั้งให้ลุกขึ้นนั่ง
เซฮุนครางหวือกับสัมผัสล้ำลึกเมื่อเปลี่ยนท่าเพียงเล็กน้อย
แผ่นหลังบางแนบกับแผงอกแกร่ง
เสียดสีกันยามจงอินสวนกายเข้าหาแต่เสียวซ่านจนต้องบดเบียดสะโพกรับ
ปรือตามองคนที่ซ้อนอยู่ข้างหลังไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
เอื้อมมือขึ้นโอบรอบคอแกร่งและมองใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและหยาดเหงื่อ
ความเป็นชายที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยยังคงกระแทกเข้ามาไม่หยุด
อีกนิดเดียวเซฮุนก็จะถึงฝั่งฝันแล้ว
“จูบ...”
เด็กหนุ่มผิวแทนไม่ลังเลที่จะทำตามคำขอ
ทั้งคู่แลกลิ้นกันอย่างโหยหาก่อนที่ร่างคนป่วยจะถูกพลิกตัวให้นั่งทับท่อนเอ็นแข็งขืน
เซฮุนถอนจูบออกกับความเสียวซ่านที่เข้ามาได้อย่างล้ำลึก
ครางกระท่อนกระแท่นยามมือหนายกสะโพกเขาขึ้นแล้วกดลงจนท่อนเอ็นร้อนเข้าไปจนมิดลำ
เซฮุนโอบกอดรอบคอแกร่งไว้เป็นหลัก
ก่อนจะบดเบียดสะโพกเข้าหาอย่างคนไม่เคย
เราสบตากันพร้อมหอบหายใจเมื่อเกมรักเดินทางมาจนถึงใกล้ถึงจุดหมาย
คนตัวผอมแอ่นอกรับเรียวลิ้นที่ดูดดึงยอดอก
ขย้ำกลุ่มผมสีเข้มจนเสียทรงพร้อมเร่งจังหวะเร็วยิ่งขึ้นจนแกนกายขาวปลดปล่อยออกมาเต็มหน้าท่องแกร่ง
“อา! เซฮุน!”
ร่างผอมโยกไหวอยู่บนตักแกร่งอย่างคนไร้เรี่ยวแรง
จงอินกอดเอวคอดไว้แน่นพร้อมจับอีกคนให้นอนหงายลงบนเตียง
พร้อมจับขาเรียวพาดเอวและไม่รอช้าที่จะสานต่อความซ่านเสียว
กระแทกกายเข้าออกอย่างหนักหน่วง หมุนควงแกนกายจนคนใต้ร่างครางเสียงหลง จนกระทั่งปลดปล่อยทุกหยาดหยดเข้าไปในช่องทางรัก
สมองขาวโพลนไปหมด ทั้งคู่นอนหอบหายใจ
ก่อนที่คนป่วยจะถูกรั้งเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด
เซฮุนไม่ลังเลที่จะซบหน้าลงกับซอกคอเหนียวไปด้วยเหงื่อของอีกคน
ตวัดแขนกอดตอบเพื่อเป็นการบอกความรู้สึกให้อีกฝ่ายรับรู้
ว่าโอเซฮุนคนนี้ไม่เคยเปลี่ยนไป
จงอินกดจูบลงบนกลุ่มผมสีเข้ม
ก่อนเจ้าของดวงหน้าขาวจะช้อนตาขึ้นมาสบตากัน
เด็กหนุ่มผิวแทนไล้นิ้วหัวแม่มือลงบนริมฝีปากบาง
แค่วินาทีนี้เท่านั้นที่เด็กหนุ่มทั้งสองขอทิ้งทุก ๆ อย่างไว้ข้างหลัง
เพื่อโอบกอดคนที่หัวใจเรียกร้องหามาตลอด
ไม่มีใครพูดคำว่ารักในช่วงเวลาที่เราต่างจมอยู่กับความรู้สึกผิด
ไม่ว่าจะกับเพื่อนหรือคนรัก แต่สิ่งหนึ่งที่ทั้งคู่รู้...
ว่าพวกเขาจะไม่วิ่งหนีความจริงอีกต่อไปแล้ว
------------------------------------------------------------
เขียนได้แค่นี้แหละ ยอมละ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น