เปิดเพลงหน้าบทความฟังไปด้วยเพื่อความบันเทิงค่ะที่รัก
Link >>
http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1358112&chapter=2
===============================================================================
บรรยากาศภายในรถช่างน่าอึดอัด
แบคฮยอนรู้สึกได้ถึงไอเย็นยะเยือกที่ก่อตัวขึ้นโดยรอบ
เมื่อเขาสารภาพว่าไม่มีคิมจงอินหรือเพื่อนหน้าไหนที่คอยอยู่เป็นเพื่อนตอนไม่สบาย
พี่เขยของเขาทำหน้านิ่งกว่าทุกครั้งที่เจ้าตัวพยายามจะปั้นให้มันดูเคร่งขรึม
และถ้าให้เดา ดูจากสภาพกางเกงกับเสื้อเชิ้ตยู่ยี่นั่น
เด็กหนุ่มเชื่อว่าพี่เขยกับพี่สาวของเขาน่าจะเพิ่งผ่านการ ‘ทำหน้าที่’
ผัวเมียกันอย่างถึงพริกถึงขิงมาเป็นแน่
“สีหน้าพี่ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
แบคฮยอนแลบลิ้นเลียริมฝีปากก่อนจะปรับเบาะให้เอนลงแล้วนอนเหยียดตัวปรายตามองอีกฝ่าย
“ผมโทรไปขัดจังหวะดี ๆ ในรอบเดือนของพวกพี่หรือเปล่า?”
สิ้นเสียงเอ่ยถามคนฟังก็แทบจะเหยียบคันเร่งจนมิด
ชานยอลดันลิ้นดุนกระพุ้งแก้มแล้วขมวดคิ้วมองทางข้างหน้าก่อนจะสบถออกมาเสียงเบาหวิว
“เด็กแสบ...”
ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าแบคฮยอนต้องการอะไร
นี่เป็นโอกาสแรกในรอบเดือนที่เขาจะได้ใช้เวลาร่วมกับบยอนนาราตามหน้าที่ของสามีที่ดีของเธอ
คิดจะปรนเปรอดูแลเธออย่างดี โดยไม่ให้รู้สึกว่าห่างหายจากกันไปนาน
แต่ก็ต้องมาพ่ายให้ความเจ้าเล่ห์ของเด็กที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เพราะชื่อของผู้ชายอีกคน
‘คิมจงอิน’
โอเค
ยอมรับว่าตัวเองเป็นเอามากหลังจากได้ยินชื่อหมอนั่น เขาก็จำต้องข่มอารมณ์ขุ่นเคืองใจไว้เพื่อไม่ให้แสดงออกต่อหน้าภรรยาถึงความผิดปกติ
ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้เรียกว่าหวงได้ไหม
แต่เขาไม่อยากให้ ‘น้องเมีย’ จอมแผนการคนนี้อยู่กับผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น
เขาพยายามปฏิเสธเสียงในหัวว่าไม่ใช่เพราะชื่อของคนที่ไม่อยากได้ยิน
หรือภาพจิตนาการดวงตาฉ่ำเยิ้มของแบคฮยอนที่ใครต่อใครจะมีสิทธิ์ได้เห็นนอกจากเขา
ทั้ง ๆ ที่พยายามปฏิเสธตัวเองแทบตาย
แต่รู้ตัวอีกทีก็ขับมาถึงที่หมาย
แถมหน้าแตกเพราะเสียรู้เจ้าเด็กนี่เข้าอย่างจัง
“ตอบไม่ตรงคำถามนะพี่เขย
เด็กแสบมันเกี่ยวอะไรกับไอ้ที่ตุงอยู่ตรงนั้นไม่ทราบ”
ไม่พูดเปล่าแต่ยังเล่นปูไต่ไปแถว ๆ
หน้าขาของอีกฝ่ายด้วย ให้ตายเถอะ
แบคฮยอนชอบชะมัดเวลาที่ได้เห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของพี่เขย
ดูสิว่าปาร์คชานยอลพยายามแค่ไหนกับการสกัดกลั้นอารมณ์ไม่โต้ตอบเขาโดยการกัดริมฝีปากตัวเองเสียแน่น
ปาร์คชานยอลคงไม่รู้ตัวเลยสินะ
ว่ามันดูเซ็กซี่จนเขาอยากจะเข้าไปช่วยขบแล้วดึงออกมาแรง ๆ น่ะ...
“พี่เขย”
แบคฮยอนยังคงเรียกสรรพนามนั้นย้ำ ๆ
ราวกับจะตอกลิ่มความรู้สึกบางอย่างลงมาในหัวสมองของเขา
แล้วยังมือเรียวที่ลูบไล้ไปทั่วหน้าขานั่นอีก
เด็กนั่นจงใจจะทำให้เขาเป็นบ้าตายทั้ง ๆ
ที่เราทั้งคู่ยังอยู่บนถนนที่คลาคล่ำไปด้วยรถยนต์คันอื่น ๆ
“พี่เขย...”
ปาร์คชานยอลผ่อนลมหายใจออกทางริมฝีปากอย่างผะแผ่ว
เมื่อมือขาวของคนตัวเล็กล่วงล้ำมาจนถึงกลางหว่างขา
ไม่หนำใจเด็กนั่นยังกระเด้งตัวขึ้นมาแล้วมองเขาด้วยสายตาฉ่ำเยิ้มแบบที่จินตนาการไว้ก่อนหน้าไม่มีผิด
“ให้ผมช่วยพี่นะ...”
เว้นจังหวะไว้เพียงครู่
ช้อนตามองแล้วจึงโน้มหน้าลงมากดจูบที่กลางลำตัวของเขา
ชานยอลอยากจะละมือไปขยุ้มกลุ่มผมของแบคฮยอนแล้วกระชากออกเหลือเกินถ้าไม่ติดตรงที่ว่าขาของเขายังคงเหยียบคันเร่งและจำต้องบังคับพวงมาลัยให้รถเคลื่อนตัวอยู่ในสภาพปกติ
ให้ตายเถอะ
เด็กคนนี้มันช่างยั่วเกินไปแล้ว
ปาร์คชานยอลกระตุกเบา ๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงความเสียววาบจากต้นขาลามไปถึงท้องน้อย
แบคฮยอนกำลังจะทำให้เขาเป็นบ้าจริง ๆ แล้วตอนนี้
เด็กนั่นไม่ได้ใช้มือรูดซิปออกอย่างคนปกติ
แต่ดันใช้ริมฝีปากอมชมพูกับเรียวลิ้นที่เขารู้จักดีลากผ่านผ้ายีนส์แล้วงับเข้าเสียเต็มแรง
“พองใหญ่เลย
สงสัยจะหายง่วงแล้ว”
แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นสบตากับพี่เขยที่กำลังพยายามข่มอารมณ์เต็มที่
เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีความอดทนมากนัก
และคนอย่างพี่สาวของเขาก็คงไม่มีออฟชั่นเสริมร้อยเล่มเกวียนอย่างเขาแน่นอน
ก็บอกแล้วไงว่าชอบสีหน้าอึดอัดของพี่เขยที่พยายามจะดึงศีลธรรมเข้ามาข่มใจมาก...
มากถึงขนาดออกแรงฟ้อนเฟ้นอะไร ๆ ให้มันพองใหญ่คับกางเกงยิ่งกว่าเดิม
“แบคฮยอน”
เสียงทุ้มที่เคยนุ่มหูตวาดขึ้นเมื่อเขาใช้ฟันงับปลายซิปแล้วรูดลง
แบคฮยอนยิ้มกับตัวเองเมื่อภาพตรงหน้าปรากฏให้เห็นชั้นในสีขาวของพี่เขยที่ด้านใต้นั้นเต็มไปด้วยความกำหนัด
ยิ่งนึกว่ามันเคยเข้ามาครูดในตัวของเขาหลายต่อหลายครั้งก็ยิ่งเก็บอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่
“พี่เขย...” ร่างเล็กเอ่ยเสียงพร่า มือก็บีบต้นขาของคนตัวสูงแล้วนวดเบา ๆ
จนอีกฝ่ายต้องกลืนน้ำลายทั้งสายตายังจ้องอยู่บนถนนเบื้องหน้า “ชอบแบบนี้หรือเปล่า?”
“แบบไหน...”
แบคฮยอนรู้ว่าอีกฝ่ายรู้
ร่างเล็กไม่ตอบอะไรแต่ก้มหน้าลงไปแล้วใช้มือล้วงเข้าไปคลึงกับของร้อนในกางเกงของอีกฝ่ายแทน
เขาล่ะสงสารพี่เขยคนเก่งจับใจ นั่งตรวจข้อสอบเด็กทั้งวันคงจะล้าไม่ใช่น้อย
พอดึงชั้นในสีขาวนั่นลงลำท่อนแข็งแรงถึงได้ดีดผึ่งออกมาจนแทบจะตีปากกันแบบนี้
นาทีนี้ชานยอลเหมือนเป็นหมูในอวยของเด็กเจ้าเล่ห์
แบคฮยอนล้วงเอาทั้งหมดของเขาออกมาแล้วจับปลายหัวของท่อนเอ็นถูกับบริเวณริมฝีปากอ่อนนุ่มตัวเอง
ทั้งสีหน้า แววตาที่จงใจยั่วยุกามารมณ์นั่นทำให้เขาสติแทบหลุด
แล้วยังจะเรียวลิ้นเล็กที่แตะลงบนของร้อนอย่างจงใจอีก มันห่อหุ้มพวงบอลแฝดของเขาอย่างช้า
ๆ ก่อนจะห่อปากงับตวัดลิ้น หยอกเอินดูดดึงมันออกมาจนเกิดเสียงดัง ป๊อบ
“แบคฮยอน...อา...”
ชานยอลแลบลิ้นเลียริมฝีปากล่างด้วยความซ่าน
มืออีกข้างที่วางอยู่บนเกียร์ออโต้เลื่อนมาขยุ้มบนกลุ่มผมนิ่มแล้วยกสะโพกให้อีกฝ่ายแสดงความสามารถได้อย่างถนัดถนี่
เวลานี้เขาไม่เห็นหนทางอื่นนอกจากรีบหักพวงมาลัยแล้วเลี้ยวรถเข้าซอยเปลี่ยวด้านข้างแทนที่จะดันทุรังอยู่บนถนนเส้นใหญ่
คุณครูหนุ่มรู้ดีว่านี่มันเป็นเรื่องไม่สมควร แต่แล้วยังไงล่ะ
ในเมื่อขาทั้งสองข้างมันเกร็งจนแทบจะเหยียบคันเร่งไม่ได้อยู่แล้ว
“ทนไม่ไหวถึงกับเลี้ยวเข้าข้างทางเลยเหรอ”
แบคฮยอนเอ่ยแซวพี่เขยตัวเองเสียงพร่า
หลังจากผงกหัวขึ้นมาเพราะรู้สึกได้ถึงแรงกระชากจากการจอดอย่างกะทันหัน
ภาพแรกหลังจากโงหัวขึ้นมาจากน้องชายปลายหัวฉ่ำคือสีหน้าปั้นยากของอีกฝ่าย
มันตลกดีที่สามีพี่สาวคนนี้กำลังใช้ความอดทนอย่างมากในการเอื้อมมือไปเข้าเกียร์ว่างทั้งที่คันโยกอยู่ห่างออกไปแค่ไม่ถึงสิบเซ็นต์
จะอะไรซะอีกล่ะ
สาเหตุที่ปาร์คชานยอลทำหน้าคล้ายกับจะตบะแตกตลอดเวลาก็เป็นเพราะฝ่ามือของเขาที่คลึงเบา
ๆ กำแล้วรูดจนหนังหุ้มร่นขึ้นลงอย่างช้า ๆ นั่นแหละ อย่าให้โอ้อวดเลย
แต่จุดอ่อนไหวเกือบทั้งหมดในร่างกายนี้
แบคฮยอนคิดว่าเขารู้ดีกว่าพี่สาวที่เป็นเมียอย่างถูกต้องตามกฎหมายของพี่เขยซะอีก
“อา...แบคฮยอน...หยุดมือทำไม”
ชานยอลตวัดเสียงถามคนที่โน้มหน้ามาหนุนตักเขาแล้วยิ้มยั่วอย่างรู้งาน
ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่มือนั่นยังรูดเค้นกอบกุมลำตัวแข็งของเขาอย่างแสนรักอยู่เลย
แต่ตอนนี้กลับยกมือขึ้นสองข้างแล้วจงใจเชิดหน้าให้ริมฝีปากนุ่มสัมผัสเบา ๆ
กับท่อนเอ็นร้อนฉ่าแทบระเบิดของเขาแทน
“บอกผมมาก่อน...”
แบคฮยอนยกริมฝีปากยิ้ม แต่ดวงตาคู่นั้นกลับไม่ได้ยิ้มไปด้วย “ก่อนมาหาผม พี่กำลังจะทำอย่างว่ากับพี่นาราใช่ไหม?”
“มันไม่ใช่เรื่องที่พี่ต้องบอกนายเลยแบคฮยอน...”
ชานยอลตอบเสียงแผ่ว
เมื่ออีกฝ่ายยื่นริมฝีปากเข้ามาใกล้กลางลำตัวเขาอีก
“เชื่อเถอะว่าพี่ไม่อยากปล่อยให้ผมจมอยู่กับความสงสัยนานนักหรอก”
แบคฮยอนยื่นหน้าเข้าหาของร้อนของพี่เขย แล้วแลบลิ้นเลียท่อนเอ็นตั้งแต่โคนลากขึ้นมาจนถึงปลายหัวเยิ้ม
“...”
“พี่ชานยอล...”
“ใช่” ชานยอลกัดริมฝีปากตัวเองแน่น
นึกอยากเอาแต่ใจตัวเองโดยการจับแท่งเอ็นของตนตีปากร้าย ๆ นั่น
แล้วกระแทกกระทันเข้าโพรงปากให้ถึงลำคอ แต่เพราะอีกฝ่ายทำสีหน้าท่าทางแบบนี้
เขาถึงต้องกักอารมณ์ดิบเอาไว้
จะได้ไม่เข้าทางของเด็กเจ้าเล่ห์ที่ทำหน้าราวกับจะชนะเกมนี้เมื่อไหร่ก็ได้
“...”
“พี่กำลังจะมีอะไรกับนารา...”
แบคฮยอนหยุดปาก
หดลิ้นเข้ามาดุนกระพุ้งแก้มตัวเองทันที
สีหน้าของปาร์คชานยอลไม่โอนอ่อนเหมือนแต่แรก
ดูท่าคุณครูหนุ่มจะเริ่มรู้ตัวแล้วว่ากำลังโดนล้อเล่นอยู่
“แต่นายก็โทรเข้ามาขัดจังหวะ
จงใจจะทำแบบนี้ใช่ไหม”
ตอนที่คนเป็นพี่เขยใช้น้ำเสียงเข้มพูดเรียบ
ๆ ใส่แบบนี้
มันเหมือนกับว่าจะขู่บังคับให้แบคฮยอนทิ้งจอยเกมในมือแล้วยกให้พี่เขยรับช่วงต่อไปคอนโทรลเสียเอง
เด็กหนุ่มยักไหล่ไม่ยี่หระ
แบคฮยอนคิดว่าเขายังมีอีกหลายแผนการที่จะทำให้พี่เขยคนดีหมดแรงอยู่ตรงนี้ แล้วยกเลิกการทำหน้าที่สามีคนดีที่บ้าน
“ใช่” แบคฮยอนจ้องตากับคนข้างตัวแล้วยิ้มออกมา “แล้วมันก็ได้ผลดีซะด้วย
ใช่ไหมล่ะพี่เขย”
“ทำแบบนี้ทำไม”
อีกครั้งแล้วที่ชานยอลรู้สึกว่าเขาพ่ายแพ้กับดวงตาเป็นประกายของน้องเมียตัวแสบ
ให้ตายเถอะ ทั้งที่ช่วงล่างของเขามันปวดหนึบจนแทบจะระเบิดอยู่รอมร่อ
แต่ยังต้องมาต่อปากต่อคำอะไรแบบนี้กันอีกเหรอ แบคฮยอนก็เหมือนกัน
เด็กคนนี้รู้ดีว่าจะเอาชื่อใครมาทำให้เขาหัวปั่นได้
และทั้งที่รู้อย่างนั้นแต่ก็ยังพูดมันออกมา
ไม่รู้ว่าอยากจะเห็นคนอย่างปาร์คชานยอลเป็นบ้าตาย หรือต้องการอะไรกันแน่
“ผมไม่อยากให้พี่นอนกับพี่นารา”
“...”
“ถ้าผมจะหวงพี่เขย...”
ชานยอลผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ
เหมือนจะขาดห้วงเมื่อเด็กข้างตัวเขาเลื่อนมือมาแตะเบา ๆ
บนแผ่นอกแล้วลากยาวลงไปถึงหน้าขา “หวงทั้งหมดของพี่เขย...
แบบนี้ผมผิดเหรอ?”
หมดสิ้นแล้วความอดทนทั้งหมด
มันละลายหายไปกับอากาศเมื่อริมฝีปากเล็กนั่นพูดคำว่า ‘พี่เขย’
ซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น แล้วยังประโยคที่เหมือนจะบอกเล่านั่นอีก
นัยยะของมันทำให้ก้อนเนื้อที่อกด้านซ้ายของเขาเต้นแรงจนเจ็บไปหมด
ทั้งสีหน้าแววตาของแบคฮยอนที่มองมามันทำให้เขาพร้อมจะสลัดความรู้สึกผิดออกไปอีกครั้ง
ชานยอลไม่ตอบอะไรเด็กเจ้าเล่ห์สักคำ
ร่างสูงหันไปปลดล็อกประตูแล้วกระชากออกไปสุดแรง เขาดึงเสื้อเชิ้ตปิดกลางลำตัวลวก ๆ
ก่อนจะก้าวลงจากรถท่ามกลางความตกใจของแบคฮยอนที่นั่งอยู่บนเบาะข้างคนขับ
“พี่ชานยอล?”
แบคฮยอนตาโตกระซิบเรียกชื่อพี่เขยเบา
ๆ เมื่ออีกฝ่ายเดินหน้านิ่งอ้อมมาทางประตูที่เขานั่งอยู่
สีหน้าของคนตัวสูงดูเรียบเฉยทว่าแฝงไปด้วยไอความดุดัน
มือหนากระชากประตูรถให้เปิดออก
ก่อนจะโน้มทั้งตัวลงมาแล้วบีบคางของเขาล็อกไว้ไม่ให้หันหนีได้
“เด็กเจ้าเล่ห์...
เด็กแสบ... นายนี่มันแย่... แย่จริง ๆ แบคฮยอน”
เพียงเสี้ยวนาทีที่แบคฮยอนใจกระตุกเพราะคำพูดเชิงว่ากล่าวของพี่เขย
แต่แล้วก็ต้องพองโตจนคับไปทั้งอกเมื่อสิ้นเสียงทุ้มแล้วอีกฝ่ายแนบริมฝีปากลงมาประกบแน่นจนแทบลืมหายใจ
“อื้อ...”
แบคฮยอนครางประท้วงเมื่อพี่เขยคนดีดูดดึงริมฝีปากล่างของเขาอย่างแรงจนแทบจะหลุดติดปากตามออกไป
ปาร์คชานยอลไม่เคยจูบรุนแรงขนาดนี้
ไม่เคยขบเม้มริมฝีปากของเขาแล้วกัดทึ้งจนเลือดซึม
ไม่เคยแม้แต่สอดลิ้นเข้ามากวาดไปทั่วแล้วดูดลิ้นของเขาจนเกิดเสียงดังจาบจ้วงอย่างที่เป็นอยู่
แต่วันนี้พี่เขยทำ... ทำทุกอย่างราวกับต้องการจะระบายทุกอารมณ์ที่เขาทำให้
‘ปาร์คชานยอล’
คนดีต้องเป็นอย่างนี้
“มานี่เลย”
ฟัดจูบเขาจนสาแก่ใจก็เอื้อมมือมากระชากแขนจนต้องถลาตามออกไป
แบคฮยอนขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นเมื่อพี่เขยหันกลับไปเหวี่ยงประตูรถปิดอย่างคนอารมณ์เสีย
รู้ตัวอีกทีก็เดินตามขายาวไปหยุดอยู่ที่ข้างรถด้านคนขับ
ก่อนจะต้องก้าวถอยจนหลังติดประตู เมื่อคุณครูหนุ่มแทรกเข่ามาตรงกลางหว่างขา
“เด็กไม่ดีต้องถูกลงโทษ”
70%
เสียงทุ้มต่ำของคนตัวสูงทำให้เขารู้สึกตื่นตัวอย่างประหลาด
แบคฮยอนไม่รู้ว่าตนเองโดนพลิกตัวให้หันหลังตั้งแต่เมื่อไหร่
จนกระทั่งรู้สึกได้ถึงลมหายใจแผ่วร้อนจากริมฝีปากอีกฝ่ายที่เป่ารดตรงหลังหู
มันทำให้ต้องเกร็งแล้วหดคอหนีเพราะดูเหมือนอีกฝ่ายจะจงใจให้เขารู้สึกมากกว่าทุกครั้ง
พี่เขยรู้ แบคฮยอนคิดอย่างนั้น
เพราะเกือบทุกครั้งที่เรามีเซ็กส์กัน
ก่อนที่พี่เขยจะปลดปล่อยทุกอณูความร้อนจากตัวให้อัดกระแทกจุดอ่อนไหวตรงด้านในของเขา
ปากนิ่ม ๆ กับฟันคม ๆ นั่นจะขบเม้ม
กัดฟัดที่ใบหูของเขาจนเสียววาบตื้อชาไปทั้งซีกร่าง แต่นี่เรายังไม่เริ่มต้นกันเลยด้วยซ้ำ
เหตุใดอีกฝ่ายถึงจงใจงัดไม้ตายที่จะทำให้เขาละลายมาเล่นกันตั้งแต่ช่วงเริ่มแบบนี้
“...อ๊ะ”
แบคฮยอนเม้มปากกลั้นเสียงครางไว้ในลำคอ
นี่มันจะเกินไปแล้ว... คนตัวสูงจรดริมฝีปากแนบต้นคอเขาแล้วดูดเม้มจนดังจ๊วบ
ทั้งหยาบโลนและแสดงถึงความหื่นกระหายไปกว่าทุกครั้ง นี่มันอะไรกัน? ถึงอีกฝ่ายจะชอบเล่นตรงใบหู
ชอบลากริมฝีปากไปทั่วทั้งลำคอ
แต่ผู้ชายคนนี้ก็ไม่เคยแสดงถึงความเป็นเจ้าของถึงขนาดนี้
“น่...นี่...อ่ะ...คือการลงโทษของพี่หรือไง”
ชานยอลมองใบหน้าขาวที่บิดเบี้ยวไปด้วยแรงอารมณ์ผ่านกระจกประตูรถ
เขาไม่คิดจะตอบอะไรเด็กดื้อนี่หรอก
ใช่ว่าแบคฮยอนจะไม่รู้ว่าเขาไม่ชอบให้พูดถึงคนอื่น แต่เด็กนี่ก็เหลือทน
พยายามสรรหาทุกวิถีทางมาทำให้เขาสติหลุดจนได้
และนี่จะเป็นการลงโทษที่ทำให้แบคฮยอนจดจำไปอีกซักพัก
เพราะเขาจะทำให้เด็กคนนี้ใส่เสื้อเปิดคอออกไปข้างนอกไม่ได้เป็นอีกเป็นสัปดาห์
“พี่ชาน....!”
แบคฮยอนสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือหนาที่นวดคลึงตรงบริเวณสีข้างอยู่
ๆ ก็เลื่อนขึ้นมาบีบยอดอกเขาอย่างแรง
เด็กหนุ่มสะบัดหน้าผ่อนลมหายใจร้องครางออกมาเบา ๆ ด้วยความเจ็บ
ปาร์คชานยอลไม่ออมแรงเลยสักนิด ปากก็ทั้งจูบทั้งฟัดคอเขาจนแทบจะไม่มีที่ว่างให้ทำรอย
แล้วไหนจะมือเย็น ๆ ที่บดขยี้สลับดึงยอดอกของเขาอย่างแรงจนแข็งเป็นไตนั่นอีก
“เรียกทำไม
อยากให้เบามือด้วยหรือไง”
แบคฮยอนไม่รู้แล้วว่าในเวลานี้เขาควรทำยังไงเมื่อได้ยินเจ้าของเสียงเข้มเอ่ยถามแบบนั้น
อีกทั้งตรงหน้าขาตรงกลางลำตัวก็ถูกเข่าสีจากด้านหลังจนร้อนแทบไหม้
ส่วนด้านบนก็โดนมือเย็นลากวนเป็นวงกลมจนต้องแอ่นอกเข้าหามือ
ถามแบบนี้ถ้าหากอีกฝ่ายหยุดขึ้นมากลางคันแล้วเขาจะทำยังไง
แน่นอนว่าปาร์คชานยอลคงไม่ยอมปราณีให้
เพราะก่อนหน้าแบคฮยอนก็มีคดีติดตัวเยอะอยู่เหมือนกัน
“ว่าไงเด็กดื้อ...”
ชานยอลรวบเอวคนตรงหน้าแล้วขยับเข้าไปหาจนอกแกร่งแนบกับแผ่นหลังของน้องเมีย
เขากดจูบตรงกกหูคนตัวเล็กแล้วกระซิบเบา ๆ
และไม่ลืมที่จะรดลมหายใจลงไปเพื่อกระตุ้นอารมณ์ดิบให้เพิ่มขึ้นยิ่งกว่าที่เป็นอยู่
“อยากให้พี่เบามือด้วยหรือเปล่า?”
“ไม่”
แต่คำตอบที่ได้ทำให้ร่างสูงถึงกับต้องเลิกคิ้ว
ชานยอลหรี่ตามองน้องเมียที่เอี้ยวหน้าหันมาสบตากันด้วยแววตาเหมือนกับทุกครั้ง
แววตาของปีศาจร้ายที่ชื่อบยอนแบคฮยอน
“ผมอยากให้พี่รักผมแรง
ๆ ...ทำผมแรง ๆ”
“...”
“ถ้าโกรธหรือไม่พอใจ...
ก็แสดงให้ผมรู้สิ ”
ทั้งคู่สบตากันอย่างหยั่งเชิง
ซึ่งแน่นอนว่าปาร์คชานยอลจะไม่ยอมปล่อยให้คนตรงหน้าได้อวดดีมากไปกว่านี้
บยอนแบคฮยอนเป็นเด็กที่สมควรได้รับการสั่งสอนให้หลับจำ
และเขาก็ได้เตรียมบทเรียนมาให้อย่างดิบดีแล้ว
“ทำให้ผมรู้ที...
ว่าเด็กดีต้องทำยังไง”
สิ้นเสียงแหบพร่าของเด็กแสบ
ครูหนุ่มก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์
ร่างสูงจับเอวบางพลิกให้หันมาประจันหน้ากันอีกครั้งก่อนจะฟ้อนเฟ้นไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย
ใบหน้าคมก้มลงสูดกลิ่นเย้ายวนจากซอกคอขาวแล้วออกแรงกัดพร้อมจูบฟัดไหปลาร้าจนคนตัวบางต้องนิ่วหน้าร้องครางออกมาเบา
ๆ
แบคฮยอนไม่สนแล้วว่าตอนนี้พวกเขาทั้งคู่กำลังยืนอยู่ตรงส่วนไหนของโลก
ร่างเล็กเขย่งตัวกอดรัดต้นคอแกร่งพร้อมโน้มใบหน้าพี่เขยลงมาให้จรดริมฝีปากจูบซอกคอตนเองได้อย่างถนัดกว่าเดิม
ก่อนขาเรียวจะยกขึ้นเกี่ยวลำตัวของอีกฝ่าย
เมื่อคนตัวสูงลากมือลงไปหยุดอยู่บนเนินบริเวณด้านหลัง
“อืม...ซี๊ด...พี่ชานยอล...”
แบคฮยอนสูดปากครางหวือ
ตอนที่มือของคุณครูหนุ่มปลดกระดุมกางเกงตัวเก่งของตน
ร่างเล็กเอนกายไปซบไหล่แกร่งทันทีที่เรียวนิ้วนั่นกรีดลงตรงร่องกลางของเนินเนื้อแน่น
พี่เขยใช้สองมือใหญ่แหวกและขยำก้นของเขาอย่างไม่ปราณี
ราวกับจะสั่งสอนว่านี่แหละคือบทลงโทษที่เด็กดื้อควรจะได้รับ
“เรียกพี่เขย...
เรียกสิแบคฮยอน”
ชานยอลกระซิบเบา ๆ แล้วกดจูบหนัก ๆ
ลงบนหน้าผากมน
ร่างกายของน้องเมียตัวแสบที่คลุ้งไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอลล์เร้าอารมณ์เขาได้ดีเกินคาด
ไหนจะเอวบางที่บิดเร้าหนีมืออยู่ตรงหน้า แต่กลับเอนมาหาแล้วเสียดสีเข้ากับกลางลำตัวเขาเสียอย่างนั้น
ให้ตายเถอะ
บยอนนาราจะรู้ตัวบ้างไหมว่ามีน้องชายขี้ยั่ว? เด็กแสบนี่ทำเขาปวดหนึบไปหมดทั้งร่าง
มันน่าสั่งสอนด้วยการกระแทกกระทั้นเข้าไปแรง ๆ ให้ล้มพับไปต่อหน้าต่อตานัก
“พี่เขย...
พี่เขย...”
แบคฮยอนผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ
เมื่อคนตัวสูงบดขยี้นิ้วเย็น ๆ เข้ากับช่องทางที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี
ฟันขาวกัดริมฝีปากล่างกลั้นเสียง ตอนที่นิ้วนั้นลูบสลับคลึงอยู่รอบ ๆ
ปากทางอย่างใจเย็น
ใจจะขาดอยู่แล้ว
แบคฮยอนไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองจะใจสั่นได้ขนาดนี้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด
อาจเพราะเราอยู่นอกสถานที่ หรืออารมณ์โกรธของพี่เขยก็ตามที แต่ที่รู้ ๆ
คือมันรู้สึกมากกว่าทุกครั้ง
แม้ว่าเราจะไม่ได้แตะต้องส่วนที่ร้อนที่สุดของกันและกันเลย
“ยกตัวขึ้นหน่อย...
อย่างนั้นแหละ”
แบคฮยอนแทบจะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว
แต่นับว่าคนเป็นพี่เขยยังปราณีกันอยู่บ้าง
เมื่ออีกฝ่ายรูดกางเกงออกจากตัวเขาเสร็จก็ออกแรงยกขาขึ้นมาให้เกี่ยวกับเอวหนาเหมือนเดิม
แบคฮยอนต้องเขย่งตัวขึ้นอีกนิดเพื่อโอบรอบคออีกฝ่ายให้แน่นขึ้นเมื่อพี่เขยแหวกแก้มก้นแล้วใช้อีกมือนึงจับแท่งร้อนจ่อปลายหัวไว้กับช่องทางของตน
ก็บอกแล้วว่าปราณีอยู่บ้าง
แต่ไม่ใช่ทั้งหมด...
เพราะนี่เป็นการลงโทษ
แบคฮยอนเข้าใจดีว่าทำไมพี่เขยถึงไม่สอดนิ้วเข้ามาเปิดทางให้เหมือนทุกครั้ง
พี่ชานยอลไม่ได้ดูรีบร้อนอะไร ดูจะใจเย็นด้วยซ้ำเมื่อปลายหัวเยิ้ม ๆ
นั่นสัมผัสเข้ากับช่องทางของเขา การที่อีกฝ่ายไม่ยอมทำอะไรนอกจากค่อย ๆ
แทรกตัวเข้าไปช้า ๆ ดึงออกแล้วสอดเข้าไปใหม่โดยค่อย ๆ
เพิ่มความลึกนั่นมันทำให้แบคฮยอนแทบบ้า
เด็กหนุ่มอยากจะขยุ้มหัวอีกฝ่ายแล้วผลักให้นอนลงกับพื้นคอนกรีตก่อนจะขึ้นขย่มแรง ๆ
ซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ติดตรงที่ว่าไม่มีแรง
และกำลังพยายามเป็นเด็กดีอย่างหนักหน่วงอยู่
“ห้ามจับ”
ชานยอลยกยิ้มแล้วใช้มือข้างที่ไม่ได้โอบรัดรอบเอวอีกฝ่ายปัดมือเล็กนั่นให้พ้นจากกลางลำตัว
แบคฮยอนพยายามจะใช้มือรูดเค้นส่วนที่ร้อนจนแทบจะระเบิดให้ได้รับการปลดปล่อย
แต่เรื่องอะไรเขาจะยอม ในเมื่อน้องเมียตัวแสบควรจะถูกทำให้ถึงโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตให้แตะต้องส่วนใด
ๆ ของตน อย่างนั้นถึงจะสาสมกับสิ่งที่แบคฮยอนทำไว้
“...”
แบคฮยอนเริ่มรู้สึกว่าในตัวของเขามันระอุจนแทบจะทนไม่ไหวเมื่อพี่เขยค่อย
ๆ กระแทกแท่งร้อนเข้ามาได้จนเกือบหมด
นับว่าปาร์คชานยอลยังมีความอดทนมากที่ใจเย็นถึงขนาดนี้ แต่แบคฮยอนแทบจะไม่ไหวแล้ว
มันทั้งอึดอัดและฝืดนิด ๆ ยิ่งตอนอีกฝ่ายสอดเข้ามาลึกเท่าไหร่ ยิ่งหมุนควง
ถอนกายครูดกับผนังอ่อนอย่างจงใจ เขาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนคนใกล้จะตาย
บยอนแบคฮยอนจะตายคาอกของพี่เขยอยู่แล้ว
“ขอร้องล่ะ...
มันแน่นไปหมดแล้ว...อื้อ”
“แค่ขอร้องเหรอ?
สัญญากับพี่ก่อนสิว่าจะไม่ดื้อแบบนี้อีก”
“อะ... ผ...
ผมจะไม่ดื้อ...”
“แบบนี้?...”
“อื้อ....แบบนี้
จะไม่ดื้อ จะเป็นเด็กดี แบบนี้” ไม่พูดเปล่าแต่ยังตวัดขารัดเอวหนาแล้วกระเถิบตัวเข้าหาพร้อมกับตอดรัดแท่งร้อนในตัวให้แน่นขึ้น
“แบบนี้น่ะ แบบที่จะไม่ขู่ว่าจะไปกับคนอื่น
จะไม่ออกไปกินเหล้าทั้งที่ไม่สบาย... แบบนี้ใช่ไหม?”คุณครูหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์
เขาจ้องสบดวงตาฉ่ำเยิ้มของคนตรงหน้าที่ดูเหมือนจะโอนอ่อนไปได้ทุกทางแล้วในเวลานี้
“อือ...
ผมจะเป็นเด็กดี... แบบ– อ๊า!!”
ร่างเล็กส่งเสียงคราง อ้าปากค้างไม่ออกเสียงเมื่อพี่เขยคนดีถอนทั้งหมดออกจากตัวเขารวดเดียวโดยไม่ให้ได้ตั้งตัว
แบคฮยอนกระพริบตาถี่ พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดช้า ๆ
ยอมเป็นผักให้อีกฝ่ายจับพลิกตัวง่าย ๆ โดยไม่โต้แย้งอะไรซักอย่าง
“พี่... จะทำอะไร”
เอ่ยถามอย่างมึนงงเมื่อคนตัวสูงจัดระเบียบร่างกายให้อยู่ในท่าโก่งโค้ง
แบคฮยอนเอี้ยวตัวมองพี่เขยที่ก้มลงนั่งยอง ๆ
ก่อนจะต้องเชิดหน้าครางสั่นอีกครั้งเมื่อสัมผัสได้ถึงลิ้นร้อนที่เลียวนอยู่รอบช่องทางรัก
“จะให้รางวัลเด็กดี”
เสียงแหบพร่านั้นกระตุ้นอารมณ์คนตัวเล็กยิ่งกว่าที่เป็นอยู่
ร่างสูงห่อลิ้นเกร็งก่อนจะแทรกเข้าไปในช่องทางที่คุ้นเคย
รู้สึกได้ถึงแรงบีบรัดของน้องเมียกับอาการส่ายเอวร่อนหนี
ถ้าเป็นเวลาปกติเขาไม่ทำแบบนี้หรอก
แต่เพราะดูเหมือนอีกฝ่ายจะเจ็บมากแล้วยังขอร้องกันทั้งน้ำตาคลอเบ้า
คนใจดีอย่างเขาจะไม่ช่วยเหลือได้อย่างไร
“อื้อ...
พี่ชานยอล... พี่เขย... พี่... พี่เขย”
ช่องทางของแบคฮยอนตอดรัดมาก มากพอ
ๆ กับเสียงครางที่ดังไม่หยุดเมื่อเขาละเลงลิ้นลงไปตรงนั้น
ชานยอลหรี่ตามองผลงานของตัวเอง ตอนนี้คงจะชุ่มพอดีแล้วเขาถึงได้ยินเสียงแผ่ว ๆ
ดังจากด้านบนบอกเบา ๆ
“เข้ามาเถอะนะ...
เข้ามาในตัวผม...”
แบคฮยอนพิงศีรษะกับประตูรถแล้วส่งสายตาอ้อนวอนคนที่อยู่ด้านหลังผ่านกระจก
เวลานี้คนตัวสูงหยัดตัวขึ้นมายืนซ้อนอยู่ด้านหลังแล้ว
และทันทีที่อีกฝ่ายส่งสายตามองกลับมา ร่างเล็กก็จำต้องผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ
เมื่อลำตัวขนาดใหญ่ค่อย ๆ แทรกสอดเข้ามาเน้น ๆ
“อื้อ...พี่เขย
พี่เขย...”
“แบคฮยอน...”
ชานยอลครางเสียงต่ำเมื่อผนังอ่อนด้านในมันบีบรัดเขาเหลือเกิน
ในตัวของแบคฮยอนรุ่มร้อนกว่าทุกครั้งที่พวกเราเคยได้สัมผัสกันมา
มันทั้งตอดยิบและกอดรัดด้วยความอ่อนนุ่มจนทำให้เขารู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า
อีกทั้งร่างของคนตัวเล็กที่ส่ายเอวร่อนอย่างไม่รู้ตัวนี่ก็คงเป็นเช่นเดียวกับเขา
“อื้อ...
พี่ชานยอล... แรงอีก”
แบคฮยอนไม่รู้ตัวหรอกว่าเด้งเอวสวนกับการกระแทกของเขาหนักกว่าทุกครั้ง
เด็กตัวแสบแยกขาโก่งโค้งเซ็กซี่เสียจนเขานึกอยากจะฟาดแรง ๆ
ที่บั้นเอวด้วยความหมั่นไส้ อีกทั้งสายตาที่มองผ่านกระจกนั่น
ทั้งแรงรัดที่ทำให้เขาเกือบจะถึงทุกครั้งที่กระทั้นเข้าไปทำให้ชานยอลต้องโหย่งตัวเพื่อออกแรงเร่ง
ชายหนุ่มแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผากของตนเอง
แล้วเอื้อมมือไปกำรอบท่อนเอ็นของคนตรงหน้าก่อนจะนวดคลึงแล้วรูดให้อย่างช้า ๆ
“เด็กดีของพี่...”
“พี่เขย... อีกสิ...
แรงอีก”
แบคฮยอนคิดว่าพี่เขยคนดีรู้ว่าเขาต้องการอะไร
ไม่อย่างนั้นร่างสูงคงไม่จงใจถอนกายอย่างช้า ๆ แล้วกระแทกกลับมาแรงขนาดนี้
ยังดีที่ตอนนี้อีกฝ่ายไม่ใจร้ายกับเขาแล้ว ไม่อย่างนั้นแบคฮยอนคงได้บ้าตายแน่ ๆ
ถ้าไม่ได้สัมผัสส่วนหน้า ทั้งที่ด้านหลังทั้งเน้นทั้งย้ำ
ตอกลงมาเหมือนจะทำให้เราทั้งคู่เสพติดกันและกันไปมากกว่านี้
“อ๊ะ!! อื้ม!! อา!!!”
“ซี๊ด... แบคฮยอน...
ดีไหม...”
เสียงเนื้อกระทบกันสลับกับเสียงครางลั่นทำให้ชานยอลรู้ว่าเขาและน้องเมียตัวแสบได้ทิ้งยางอายลงไปแล้ว
ความเสียวที่แล่นวาบจากกลางลำตัวกับจังหวะการตอดรัดของแบคฮยอนทำให้มือหนาต้องบีบสีข้างของคนตัวเล็กให้แน่นขึ้น
ก่อนชายหนุ่มจะกระแทกเน้น ๆ
ลงไปอีกสองสามครั้งตรงจุดที่เขารู้ว่าแบคฮยอนจะรู้สึกดีมาก ๆ
หากได้สัมผัสมันอย่างแนบแน่น
“อึก... อ... อ่ะ...
อา...”
“แบคฮยอน... อืม...
แบคฮยอน...”
นาทีนี้คำว่าทรยศไม่มีอยู่ในหัวแล้ว
แบคฮยอนไม่ได้นึกถึงใบหน้าของพี่สาวอีกเมื่อฝ่ามือของพี่เขยเค้นเอาทุกหยดหยาดออกไปจากตัวเขา
เท้าเล็กจิกเกร็งเมื่อน้ำเชื้อร้อน ๆ
ที่ควรจะอยู่ในตัวของพี่สาวฉีดพุ่งเข้ามาในช่องทางด้านหลังจนรู้สึกได้ถึงความอุ่น
ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีละลายหายไปหมดเมื่อเขาทั้งคู่ได้ลักลอบเสพสมกันอีกครา
ร่างเล็กหมุนตัวไปกอดรอบคอของพี่เขยแล้วโน้มใบหน้าคมโทรมเหงื่อลงมากดริมฝีปากคลึงจูบกันอย่างกระหาย
ตอนนี้ในตาของแบคฮยอนมีแต่พี่เขย...
มีแต่เจ้าของมือหนาที่โอบรัดรอบเอวของเขาไว้แทนการแสดงความเป็นเจ้าของ
และใช่...นี่เป็นอีกครั้งแล้วที่พวกเขาเหมือนคนตาบอด
พวกเรามองไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่คำว่า
‘ผิดชอบชั่วดี’
===============================================================================
ในส่วนของฉาก NC ตอน
2 นี้ติ๋ม @_THEGifTiM เป็นคนเขียนให้เรานะคะ เราเขียน NC
ไม่ดุเดือดขนาดนี้ กรี๊ดดดด
กลับไปเมนท์ให้กำลังใจหนูได้ในลิงค์นี้จ้า
>>>
http://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1358112
หรือถ้าอยากติดแท็กในทวิตเชิญที่ #แก้บนสิมลิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น