ไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมว่าสายตาที่มาพร้อมประโยคเมื่อครู่ดูเปลี่ยนไป
วูบหนึ่งจ้านรู้สึกเหมือนไม่เคยมีเด็กชายน้องป๋อที่ออดอ้อนเก่งหรือชอบพูดจ้อไปเรื่อยเรียกรอยยิ้มคนฟัง
เพราะอยู่ ๆ จ้านก็มองเห็นแววตาจริงจังของเด็กผู้ชายคนหนึ่งและลิ้นร้อนที่ตวัดเลียนิ้วเขาจนเยิ้มไปด้วยน้ำลาย
อยู่ ๆ มือก็ขยับไม่ได้ จ้านไม่กล้าเช็ดส้มที่ทะลักออกมาจากมุมปากอีกฝ่าย
เขาเอาแต่มองน้ำเปรี้ยวหวานไหลตามแก้มคนที่นอนอยู่บนตักก่อนมันจะหยดลงบนเป้ากางเกงของเขาในที่สุด
แต่แทนที่จะหยุด ป๋อกลับเบียดแก้มที่เลอะไปด้วยน้ำส้มเข้าหาส่วนที่พองนูนขึ้นตามสัญชาตญาณ
อยากคิดว่าน้องคงเช็ดเอาความเหนียวออก แต่ปลายจมูกโด่งรั้นที่คลอเคลียกับความเป็นชายผ่านเป้ากางเกงก็เป็นคำตอบให้รู้ว่าไม่ใช่
“พี่ยังไม่อาบน้ำ -- หนูครับ
พอก่อน”
ไม่เคยเป็นฝ่ายห้ามถ้าเป็นเรื่องแบบนี้
จ้านไม่ได้ใสซื่อไร้เดียงสา แต่ตอนนี้น้องป่วยอยู่ อีกทั้งเขาเองก็ทำงานมาตลอดทั้งวัน
เหงื่อออกยังไม่ได้อาบน้ำ น้องเล่นซุกหน้าลงมาอย่างนี้ใครจะกล้าปล่อยให้ทำต่อ
นอกจากไม่ฟังยังพลิกตัวคุกเข่าราวกับอยากให้อยู่ในท่าที่จัดการอะไรได้ง่าย
ๆ เด็กชายน้องป๋อก้มหน้างับซิปกางเกงแล้วค่อย ๆ รูดลงโดยไม่ใช้มือ
จ้านต้องหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกสุดท้ายแล้วเอามือปิดส่วนนั้นไว้
“ป๋อ ขอพี่อาบน้ำก่อน”
น้องเงยหน้ามองเหมือนจะบอกให้รู้ทางสายตาว่าประโยคเมื่อครู่เป็นข้อเสนอที่ให้กันในนาทีนี้ไม่ได้
จ้านพยายามตั้งสติ
แม้ว่าหัวใจเขามันจะเต้นแรงเหมือนอยากตะโกนออกมาดัง ๆ ก็ตาม
“แค่ห้านาทีนะ”
เด็กชายน้องป๋อทำตาแป๋วพร้อมส่ายศีรษะไม่เห็นด้วย
ทำไมถึงดื้ออย่างนี้ล่ะ นอกจากจะไม่สนใจคำพูดแล้วน้องก็ยังทำท่าจะเอาไอ้นั่นออกมาให้ได้แม้ว่าเขาจะพยายามยื้อเอาไว้
ป่วยอยู่ไม่ใช่เหรอ ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนถึงได้จับข้อมือเขาออกพร้อมควักความเป็นชายออกมาจนเห็นได้เห็นกับตาว่ามันแข็งตัวมากแค่ไหน
“ใครเขาอาบก่อนทำกัน?”
รู้สึกย้อนแย้งจนอยากต่อยกับตัวเอง ใจหนึ่งอยากให้หยุดเพราะถ้าปล่อยเลยตามเลยคงเป็นจ้านที่ควบคุมตัวเองไม่ได้
เขายังอยากเป็นคนใจดี อ่อนโยน และไม่รีบร้อนค่อยเป็นค่อยไป แต่อีกใจกลับบอกว่าก็ทำไปสิ
ยังไงก็ผู้ชายด้วยกันอยู่แล้วและน้องก็เป็นฝ่ายเริ่มด้วย พอคิดอย่างนั้นก็ละอายใจ
แต่ลูกชายก็พร้อมจะจามใส่เหลือเกินโดยเฉพาะเวลาแบบนี้
ตั้งแต่เด็กจนโตเคยมีแฟนอยู่ไม่กี่คน เพราะเวลาคบใครจ้านคบนานเป็นปี
และคนเก่าที่มีอะไรด้วยก็ไม่เคยแสดงออกด้านวาบหวามให้ใจเต้นหรือเป็นฝ่ายเริ่มก่อนจนให้ความรู้สึกทำตัวไม่ถูกอย่างนี้
“เอาออกก่อนแล้วค่อยอาบ เดี๋ยวหนูจะช่วยพี่เอง”
“...”
จ้านกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ ทั้งหน้าทั้งหูร้อนไปหมดขณะมองอีกคน
เด็กผู้ชายที่คิดว่าคงนอนซมให้เช็ดตัวทั้งคืนกำลังลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้นแล้ว
ดวงตาคู่นั้นมองมาอย่างจริงจังแค่ครู่เดียวก่อนจะเปลี่ยนเป็นแววตาสดใส
เหมือนอยากบอกให้รู้ว่าเด็กชายน้องป๋อไม่ได้หายไปไหน
น้องยังคงเป็นน้องที่เขาเอ็นดูคนเดิม
“หนูจะไม่ให้พี่ไปอาบน้ำจริง ๆ เหรอ?”
ทันทีที่ได้ยินคำถามน้องก็ส่ายหน้าแล้วโน้มศีรษะเข้าหาความแข็งขืนซึ่งมันกำลังสั่นระริกเพียงเพราะเห็นลิ้นที่แลบออกมาทักทาย
“ป๋อ พี่ขอเตือนครั้งที่หนึ่ง”
เจ้าของชื่อไม่หยุดหนำซ้ำยังเอาลิ้นหยอกล้อกับส่วนหัวที่ปริ่มน้ำใส
ถ้าหากป๋อซื่อจริง ๆ คงไม่เข้าใจประโยคเมื่อครู่ แต่ถ้าไม่...
เจ้าตัวก็คงท้าทายเขาอยู่ ถ้าหากอยากเตือนครั้งที่สอง
“อยากให้พี่ทนไม่ไหวจนทำเรื่องแบบนั้นกับหนูทั้งที่ยังป่วยอย่างนี้เหรอ?” พูดถึงขนาดนี้จะกลัวกันบ้างไหม ตัวก็ยังไม่เช็ดให้
ผ้าขนหนูกับกะละมังที่เพิ่งเอามากลายเป็นหมันไปแล้ว “ป๋อ!”
จ้านเกร็งไปทั้งตัวกับความวาบหวามที่ถูกครอบด้วยโพรงปากอุ่น
ความเป็นชายกระตุกรับอยู่ทุกขณะยามน้องผงกศีรษะ เด็กดื้อเงยหน้าขึ้นมาสบตากันทั้งที่ปากยังรูดเข้าออกตามความยาวของแท่งนั้นอย่างช้า
ๆ ราวกับจะให้เขาเลือกว่าจะหันหลังให้ความเสียวซ่านนี้หรือไม่
“พรุ่งนี้หนูอาจเดินไม่ไหวแล้วก็ไข้ขึ้นนะ”
น้องคายแท่งร้อนออกจนน้ำลายยืดเป็นเส้น เขามองสีหน้าคนป่วยที่ฟุ้งไปด้วยความสนุกและตื่นเต้นอย่างเก็บไม่มิด
ผิดกับเขาที่เอาแต่ตบตีกับความคิดตัวเองว่าควรปล่อยใจไปทางไหน
“พี่ห้ามตัวเองไม่ได้จริง ๆ เหรอ”
“ก็ถ้าเรายังยั่วพี่ไม่หยุด...”
“ยั่ว?” เด็กชายน้องป๋อทวนคำพูดแล้วหลุดขำ
ตลกอะไรกัน ถ้าปวดตัวจนลุกไม่ไหวจะโทษใครไม่ได้นะ
“บอกแล้วว่าพี่ก็ผู้ชายคนนึง ไม่ใช่อิฐ ไม่ใช่ปูน”
“นั่นสินะ พี่ต้องหักห้ามใจเอามาก ๆ
ที่จะไม่จับหนูแก้ผ้าแล้วกดลงกับเตียง” ปากพูดเหมือนจะนึกได้
แต่มือซุกซนกลับกำรอบความเป็นชายของเขาเอาไว้พร้อมชักขึ้นลงอีกครั้ง “หนูรู้ หนูสำนึกผิดแล้ว ถ้างั้นเอางี้ไหม”
“...”
“หนูจะให้พี่ทำกับปากหนูจนกว่าจะพอใจ อยากกระแทกแรง ๆ
เท่าไหร่ก็ได้ หนูจะอ้าปากอมให้พี่ทั้งคืนเลย...”
“ป๋อ” คนฟังหน้าแดงจัด
ที่พูดมาน่ะไม่เขินบ้างเลยเหรอ ใครจะไปบ้าทำแบบนั้นตลอดทั้งคืนกัน เขาตั้งใจมาดูแลคนป่วยนะ
ใช่ ตั้งใจมาดูแลคนป่วย “ทำไมถึงน่าตีแบบนี้?”
“ตีหนู? หรือว่าพี่ชอบแบบ BDSM?”
เจ้าตัวแสบยิ้มชอบใจ จ้านนิ่วหน้าหลับตาแน่น
สองมือขยำผ้าห่มเอาไว้เมื่ออีกฝ่ายขยับข้อมือเร็วขึ้นจนเขาอยากขยับสะโพกเข้าหา
*BSDM คือ การลงโทษ (Discipline), การปกครอง (Dominance) และการยอมจำนน (Submission), การมีความสุขจากการทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด
(Sadism) และการมีความสุขจากการถูกผู้อื่นทำให้เจ็บปวด (Masochism) – credit:thestandard.co
“คราวหลังหนูควรเตรียมของเล่นไว้รอดีไหม
พวกเชือก แส้ หรือว่าเข็มขัด”
“ใครจะทำเรื่องแบบนั้นกัน เด็กลามก...”
“อย่าเพิ่งเสร็จล่ะ หนูยังไม่ได้ใช้ปากลามก ๆ
อ้อนพี่เลย”
“ไม่ใช้ก็ดีแล้ว พี่ทำงานมาทั้งวันมีแต่เหงื่อ
มันน่าเอาเข้าไปในปากตรงไหน?” ถึงจะต่อว่าอีกฝ่าย
แต่เขาก็รู้สึกดีเหมือนจะเป็นบ้าตายอยู่ทุกขณะกับเรื่องที่ห่างหายไปนาน
ทั้งที่แค่ใช้แค่มือแต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกเหมือนจะถึงฝั่งฝันอยู่รอมร่อ
ปกติจ้านไม่ใช่คนเสร็จง่าย แต่คราวนี้ทุกอย่างมันไวจนงงไปหมด
ย้อนแย้งอีกแล้ว
จ้านรู้สึกอายหากต้องยอมรับและคล้อยตามการเอาอกเอาใจของอีกฝ่าย แต่ลึก ๆ ในใจเขาก็โหยหาเรื่องพรรค์นี้แต่ไม่กล้าออกปากบอกคู่นอน
และป๋อเหมือนเข้ามาปลดล็อกให้รู้ว่าต่อให้ภายนอกจะหลงใหลความรักแบบโรแมนติก
อ่อนโยน ค่อยเป็นค่อยไป
ส่วนเรื่องบนเตียงคงเริ่มด้วยกอดจูบแสดงความรักให้อีกฝ่ายรับรู้
แต่นั่นก็เป็นพาร์ทของความรัก แต่ถ้าเป็นส่วนของความเสน่หา
จ้านก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาตื่นเต้นกับคำพูดทะลึ่งตึงตังของอีกฝ่าย
“ถ้าพี่ถามว่าตรงไหน...”
หัวใจเต้นแรงยิ่งกว่าเสียงกลอง
ทั้งสองสบตากันขณะมือเรียวยาวชักแท่งร้อนขึ้นลงเร่งจังหวะจนได้ยินแต่เสียงเหนอะเหนอะจากน้ำหล่อลื่น
ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่ออยู่ ๆ อีกฝ่ายก็ช้อนขาของเขาพาดกับไหล่เหมือนอยากให้อยู่ในท่วงท่าที่สะดวกขึ้น
‘แต่ท่านี้มันไม่แปลก ๆ ไปหน่อยเหรอ?’ จ้านตั้งคำถามกับตนเองอย่างนั้น
“หนูก็จะบอกว่าอะไรที่เป็นพี่หนูยัดเข้าปากได้ทั้งนั้น”
“...!!!”
จ้านหลับตาพลางกัดริมฝีปากแน่นจนเลือดห้อ
ตอนนี้เขาไม่รู้แล้วว่าหัวใจที่กำลังเต้นกับศีรษะที่ผงกขึ้นลงอยู่ตรงกลางหว่างขาอะไรที่มันเร็วกว่ากัน
“อืม... ป๋อ ถ้าหนูทำแบบนี้พี่จะ --”
“หนูทำไม?” เจ้าของชื่อไม่ปล่อยให้เขาได้หายใจ
แม้แต่ตอนคายความแข็งขืนออกมาเด็กแสบก็ยังใช้ข้อมือกำมันเอาไว้แล้วรูดตามจังหวะก่อนจะอมเข้าไปใหม่อีกครั้งหลังจากได้ถามย้อน
“ถ้าหนู... อา... ถ้า...”
ชายหนุ่มหอบกระเส่าพลางขยับสะโพกเข้าหาโพรงปากร้อนเพราะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
สองมือที่เคยกอดเอวอย่างออดอ้อนตอนนี้กำลังกระชับกอดลดช่องว่างเพื่อให้ส่วนแข็งขืนเข้าไปได้ลึก
ๆ ขาที่ไม่เคยพาดกับไหล่ใครเกร็งจนถึงปลายเท้า
จ้านมองศีรษะตรงหว่างขา พอถูกแกล้งหนัก ๆ
ก็มีความคิดอยากเอาคืนบ้างจึงกดศีรษะทุยเข้ามาเผื่อว่าจะมีคนสำลัก แต่เขาคิดผิด...
เด็กแสบยังดูดเลียส่วนหัวแล้วอมเข้าไปใหม่ทั้งด้าม อมตั้งแต่โคนถึงปลายซ้ำ ๆ
อย่างไม่รู้จักเหนื่อย จนอยากนึกหึงย้อนหลังว่าเมื่อก่อนป๋อเคยทำแบบนี้ให้ใครบ้าง?
“หนู... เอาปากออก... พี่จะเสร็จแล้วครับ... อา...”
มือของเขาช่างไร้เรี่ยวแรงตอนพยายามดันไหล่อีกฝ่ายออกถึงไม่ได้ผลอย่างนี้
จ้านพยายามกักเสียงคราง แต่ทุกครั้งที่น้องแยงลิ้นเข้ามาในรูตรงส่วนหัว
เขาก็หลุดเสียงน่าเกลียดออกไปอย่างช่วยไม่ได้
“...!!!”
ชายหนุ่มเกร็งไปทั้งตัวเมื่อได้ปลดปล่อยทุกหยาดหยดเข้าไปในปากคนป่วย
จ้านยังคงปรับจังหวะการหายใจให้กลับมาคงที่ไม่ได้
และพอเห็นว่าอีกฝ่ายถอนปากออกมานั่งคุกเข่าก่อนจะเงยหน้าขึ้น
เขาก็ยิ่งอยากจะบ้าตายตอนเห็นรอยยิ้มที่มาพร้อมปากที่อ้าออกให้เห็นว่าน้องกลืนมันไปหมดแล้ว
“หนู ทำอะไรลงไปเนี่ย?”
“ออกเยอะมาก พี่ไม่ได้ช่วยตัวเองเลยเหรอ?” ทำไมถึงดื้อขนาดนี้ นั่นใช่คำถามหลังทำเรื่องน่าอายลงไปหรือไง เขาล่ะอยากจะตายจากโลกนี้ไปให้รู้แล้วรู้รอด
“ก็ใช่ไง งานยุ่งทุกวันพอกลับบ้านก็เหนื่อยแล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปคิดเรื่องลามก
ปะ... ลุกขึ้นครับ ไปล้วงคอในห้องน้ำกับพี่ เราต้องอ้วกมันออกมานะ”
จ้านคว้าข้อมืออีกฝ่ายให้ลุกขึ้น
แต่ยังไม่ทันได้ไปไหนไหล่ของเขาก็ถูกกดให้นั่งลงไปกับขอบเตียงเหมือนเดิม
พร้อมร่างผอมสูงร้อยแปดสิบที่ยืนเข่าคร่อมตัวเขาไว้ข้างหนึ่ง
“หนู - ไม่ - อ้วก”
“ป๋อ”
“บอกแล้วไงว่าอะไรที่เป็นพี่หนูจะยัดเข้าปากให้หมด”
“...” จ้านมองเด็กแสบที่ใช้นิ้วหัวแม่มือปาดคราบของเหลวที่เลอะตรงมุมปากออกมาดู
ก่อนจะเลียกินราวกับเสียดาย
“พี่หน้าแดงกว่าหนูที่เป็นไข้อยู่อีก”
“ก็เพราะเด็กลามกที่ไหนล่ะ?”
“หนูเอง เด็กชายน้องป๋อของพี่จ้าน”
“...” ถึงกับกุมขมับ
เขาทั้งเขินและอายจนไม่กล้ามองหน้าน้องแล้ว
พอเสร็จจนโล่งถึงคิดได้ว่าทำไมไม่จับปล้ำให้จบ ๆ
ไปเลยนะ ไม่น่าปล่อยให้เด็กควบคุมถึงขนาดนี้ เสียผู้ใหญ่จริง ๆ
“ชอบไหม?”
“...”
“ถ้ายังไม่พอหนูจะอมให้ใหม่ พี่แค่นอนอยู่เฉย ๆ”
“เราเห็นพี่เป็นคนแบบไหน?” จ้านเงยหน้าคาดโทษคนที่ยืนเข่ากักตัวเขาไว้
“พี่จะสบายตัวคนเดียวได้ยังไง หนูยังไม่ได้เอาออกเลยสักรอบ”
อยากแดก!!!!
อยากแดก!!!!
อยากแดก!!!!
อยากแดก!!!!
อยากแดก!!!!
อยากแดก!!!!
อยากแดก!!!!
อยากแดก!!!!
นั่นคือเสียงที่กึกก้องอยู่ในหัวป๋อ
“พี่จะช่วยหนูเหรอ?” น้องถามตาใสราวกับไม่ได้คาดหวังไว้ว่าจะได้ยินประโยคนั้นจากปากเขา
“หนูเสร็จช้านะ เดี๋ยวพี่เมื่อยกราม หนูสงสาร”
“จะช้าสักแค่ไหนกัน?”
ป๋อเม้มริมฝีปาก
ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากกรอเวลาให้เดินไปข้างหน้าสักชั่วโมง พี่จ้านจะได้เห็นสภาพตัวเองตอนขยับปากพูดไม่ไหว
ชายหนุ่มเอนตัวนอนลงไปตามแรงดันเบา ๆ
ของคนอายุน้อยกว่า หากยังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ลูกชายคงตื่นมาสู้รอบสองได้ไม่ยาก
แต่จ้านตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ลำบากน้อง เพราะเขาจะใช้มือจัดการตัวเอง
“งั้น...”
เขาหลุดออกจากความคิดพลางสบตากับคนที่ยืนเข่าคร่อมอยู่ตรงช่วงอก
เด็กชายน้องป๋อที่เอาอกเอาใจเขาเกือบตายเมื่อครู่กำลังถลกเสื้อขึ้นเล็กน้อยและตามด้วยดึงหัวกางเกงนอนลง
จนส่วนนั้นดีดผึงออกมาให้รู้ว่าขนาดของน้องก็ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ
“อ้าปากออก...”
“...”
“แล้วอมให้หนูจนกว่าจะแตก”
TBC
เมื่อกี้เห็นแวบ ๆ
ไม่รู้แม่ใครหยิบไม้แขวนเสื้อมา
ปล.ใครอ่านจบแล้วแวะไปบอกเล่าในแท็กหรือกลับไปให้กำลังใจพี่จ้านตอนหน้าในจอยได้น้าพรี่
ปล.ใครอ่านจบแล้วแวะไปบอกเล่าในแท็กหรือกลับไปให้กำลังใจพี่จ้านตอนหน้าในจอยได้น้าพรี่
ส่วนตอนนี้ตัวใครตัวมัน หนูไม่อยู่แร้ว
จ้วดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หน้าร้อนยิ่งกว่าลาวาในภูเขาไฟ😶😶
ตอบลบอือหือ~~~~
ตอบลบพี่จ้านหนีไป๊!!!!! ไอ้เด็กนี่มันรว้ายกาจมาก พี่จ้านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
ตอบลบ