OS
‘เหงื่อแตกเลยอะ’
chanyeol x baekhyun
ไม่มีสาระ ไม่มีเนื้อเรื่อง ไม่มีอะไรทั้งนั้น เขียนตอนง่วงมาก ๆ แง
คิดซะว่าอ่านฆ่าเวลานะคะ ถ้าใครกลัวเสียเวลาอย่าอ่านเรยดีกว่า 555555555
วันที่ 15 พ.ย. 2016
เวลาประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง
ในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ แต่ปาร์คชานยอลกำลัง...
เหงื่อแตก
“ใจไม่ดีเลย”
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งยกมือขึ้นทาบอกพร้อมหายใจเข้าลึก ๆ หลังจากเห็นรูปแต่งหญิงของใครอีกคนที่เขาไม่เคยบอกใครในโลกนี้ว่าแอบเปิดแจ้งเตือนเอาไว้
บยอนแบคฮยอนบ้าไปแล้วใช่ไหม ทำไมหมอนั่นถึงทำเรื่องร้ายแรงต่อใจเอลี่ทั้งโลกอย่างนี้
นี่ยังไม่นับเพื่อนร่วมวงอย่างเขาที่วันดีคืนดีก็กุ๊กกิ๊กกัน แต่บางวันก็เป็นเพื่อนอีกนะ
ถึงสถานะจะไม่ชัดเจนแต่อยู่แบบนี้ก็ฟินไปอีกแบบ
เราสองคนไม่ผูกมัดกันแต่ก็ไม่เคยทิ้งให้อีกฝ่ายอยู่คนเดียว
ในทีแรกชานยอลคิดว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่หอกหักมาก
แต่สุดท้ายเขาก็ยอมเลือกทางนี้เพราะถ้าให้อยู่อย่างห่าง ๆ
ในสถานะเพื่อนอย่างเดียวเขาก็ไม่มีความสุขเหมือนกัน
แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะว่ะ ตอนนี้ในหัวปาร์คชานยอลมีแต่ริมฝีปากสีชมพู
ดวงตากลมโตคู่นั้นกับผมหน้าม้าเหมือนเด็กสาววัยมัธยมลอยอยู่ในความคิด เขาหายใจเข้าลึก
ๆ เพื่อรวบรวมสติที่มีอยู่น้อยนิด แล้วจิ้มหน้าจอมือถือเพื่อเมนท์ใต้ภาพที่อีกไม่ถึงสองนาทีก็คงลบทิ้ง
และคอมเมนท์ของเขาก็จะหายไปจากโลกนี้ด้วยเช่นกัน
“แม่ง ลุคนี้โคตรน่าปู้ยี้ปู้ยำ”
“จริงดิ?”
“เออ... เชี่ย!”
คนตัวสูงผงะถอยหลังเข้าไปในห้องสามก้าวพร้อมเบิกตากว้างมองเจ้าของคำถามเมื่อครู่ที่อยู่ในชุดกลาสีกับวิกกระชากเหงื่อ
อะไรกันวะ... เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วหมอนี่ยังอยู่ในลุคหัวแดงนั่งวาดหน้าตัวเองอยู่เลย
แล้วไหง –
“หื่นจังเลยน้าชานนอลอา” ดู... มีความทำเสียงแบ๊วพร้อมเรียกชื่อเพี้ยนอีกด้วย
แกร่ก...
ชายหนุ่มยืนหน้าแห้งเหงื่อแตกพลั่ก ๆ
กลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ ทันทีที่เห็นว่าคนตัวเล็กล็อกประตูห้องพร้อมหันมาหาเขาราวกับจะบอกว่าตอนนี้โลกที่เคยมีประชากรไม่รู้กี่ล้านคนมันเหลืออยู่แค่เราสองแล้ว
“เฮ้ย เมื่อกี้พูดเล่น”
“หมายถึงอันไหนล่ะ?” แบคฮยอนก้าวเข้าหาเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออย่างช้า ๆ
ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองตาของอีกฝ่ายที่แกล้งหลบไปอีกทาง “ที่เมนท์ว่าเหงื่อแตก
หรือที่บอกว่าฉันน่าปู้ยี้ปู้ยำ?”
“...”
นานแล้ว... เราสองคนห่างหายจากเรื่องอย่างว่าไปนานมากจนปาร์คชานยอลพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่าเขาอยากจับบยอนแบคฮยอนมาฟัดให้หายอยาก
เอาให้จมเตียงไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันไปเลย (จะมโนก็ขอแบบแรง ๆ หน่อย)
ก็ตั้งแต่ฟอร์มยูนิต CBX
ยันโปรโมตจนถึงทุกวันนี้เราแทบจะไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวด้วยกันเลย แต่ก็นะ... เป็นแค่เพื่อนสนิทที่เลเวลอัพแล้วแต่ไม่ใช่แฟนก็เลยงี่เง่าไม่ได้
สุดท้ายปาร์คชานยอลยืนยิ้มหื่นมองรูปถ่ายน้องแบคฮี หลังจากนั้นก็ไปเมนท์ระรานไอจีแทอูเพราะพิษรักแรงหึง
ทำอย่างนั้นวนลูปอยู่ทุกวันและจะไม่หยุดง่าย ๆ
“ไปล้างหน้าล้างตาไป
จะเที่ยงคืนแล้ว” ชายหนุ่มพยายามตีมึน วางมือลงบนศีรษะกลม
ก่อนจะค้างอยู่ท่านั้นเมื่อถูกอีกคนคว้ามือเอาไว้โดยที่สายตายังไม่ละไปไหน
“ชานยอล”
“...อะไร”
“ตอนนี้ยังเหงื่อแตกอยู่ไหม?”
ให้ตายเหอะว่ะ... เล่นถามตรง ๆ
แบบนี้ใครจะไปกล้าตอบ?!
“ก็นิดหน่อย สงสัยใส่เสื้อหลายชั้นเกินไป” พูดจบก็ถอดแจ็กเก็ตตัวนอกแขวนไว้ลวก ๆ ก่อนจะหันเข้าหาเจ้าของสายตาที่มองมามีความหมายอีกครั้ง
“ดีขึ้นหรือยัง?”
“กว่าเดิมเยอะ”
“เหรอ แล้วอยากเหงื่อออกมากกว่านี้ไหม?”
“...”
ไม่พูดอย่างเดียว สองมือที่เอลี่ต่างก็ชมว่าสวยกว่ามือผู้หญิงกำลังปลดหัวเข็มขัดของเขาออกพร้อมรูดซิปลงโดยไม่เปิดโอกาสให้ตั้งตัว
ชายหนุ่มเบิกตาค้าง ยืนนิ่งเป็นผู้ชายอ่อนหัดเพียงเพราะสายตาเชิงคำสั่งของอีกฝ่าย ริมฝีปากสีชมพูยกยิ้มเล็กน้อย
ทาบมือลงบนเป้ากางเกงซึ่งกำลังพองคับแน่นพร้อมใช้มืออีกข้างคล้องคอเขาเอาไว้
“ไม่สิ... ต้องเรียกว่าเหงื่อแตก”
ปาร์คชานยอลกำลังจะเป็นบ้าตายกับการถูกปลุกเร้าหลังจากถูกปล่อยเซอร์ให้อยู่กับนิ้วทั้งห้ามาตลอดเดือน
คนตัวแสบกำลังกลั่นแกล้งเขาด้วยมือและริมฝีปากขบติ่งหู พร้อมกระซิบอย่างเย้ายวนว่า ‘แข็งจัง...’
ชายหนุ่มเลียริมฝีปากคลายความตื่นเต้น
พยายามหายใจเข้าลึก ๆ ขณะมองคนตัวเล็กยั่วราวกับจะปั่นให้สติของเขาแตกก่อนอย่างอื่น
แบคฮยอนแม่งชอบเป็นแบบนี้ กว่าจะยอมให้ฟัดก็ต้องแกล้งจนพอใจก่อน
มือที่เคยคั้นคลึงเป้ากางเกงยอมคลายออกเพื่อกระตุกกางเกงยีนส์เนื้อดีให้ลงไปกองที่หัวเข่า
ชานยอลก้มลงมองไอ้ตัวแสบซึ่งย่อตัวลงไปเผชิญหน้ากับสหายเก่าที่ไม่ได้เจอกันเป็นเดือน
เขาเกลียดจริง ๆ เวลาแบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมาและยิ้มหลังจากเห็นว่าเขามีอารมณ์มากแค่ไหน
“ดูเหมือนไอ้ที่อยู่ในกางเกงในก็เหงื่อออกเหมือนกันนะ”
“...”
จะไม่ให้ออกได้ไง... ก็เล่นทั้งลูบ
ทั้งขยำซะขนาดนั้น
คนขี้แกล้งอมยิ้มอย่างอารมณ์ดีพร้อมแลบลิ้นออกมาแตะส่วนปลายที่ฉ่ำไปด้วยน้ำเหนียวซึ่งคงไม่ต้องถามว่ามันเกิดขึ้นเพราะใคร
สาบานให้ตายเลยว่าปาร์คชานยอลอยากจับศีรษะกลมไว้แล้วกระแทกเข้าไปในปากอุ่น ๆ
เอาให้แตกจนสำลักน้ำขาวขุ่น จะได้รู้เสียทีว่าไม่ควรลองดีกับปาร์คชานยอลคนนี้
แต่ในความเป็นจริงสิ่งที่เขาทำก็คือยืนอยู่นิ่ง ๆ
ให้อีกฝ่ายหยอกล้อกับส่วนแข็งขืน นั่นแหละ เขาเก่งในความคิดเสมอ
“ซี๊ด...”
ลิ้นและโพรงปากของแบคฮยอนยังเป็นสิ่งสุดยอดที่เขาชอบมากที่สุด ชายหนุ่มขบกรามแน่นและเริ่มขยับสะโพกอย่างช้า
ๆ ซึ่งคนตัวเล็กก็รู้ดีว่าควรทำยังไงปาร์คชานยอลถึงจะสยบแทบเท้าได้
เช่นการใช้ลิ้นเลียรอบท่อนกาย เอามือรูดจนน้ำปริ่มไหล
ดูดส่วนหัวแรง ๆ และสื่อสารกันผ่านสายตา
ชานยอลเป็นคนอดทนเก่ง
แต่นั่นก็ตอนที่เรามีอะไรกันบ่อย ๆ
ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ห่างหายกันไปเป็นเดือนอย่างนี้ ชายหนุ่มดึงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นยืนพร้อมจับให้หันหน้าเข้าหาผนังห้อง
เขาได้ยินเสียงร้องในลำคอเบา ๆ ก่อนเจ้าตัวจะหันมาดูผลงานว่าทำให้ผู้ชายคนนี้มีอารมณ์มากแค่ไหนแล้ว
ชานยอลเลียริมฝีปากมองกระโปรงชุดกะลาสีและผมยาวที่ตกถึงกลางแผ่นหลัง
โอเค เขาชอบทั้งผู้หญิงและผู้ชายนั่นแหละ
แต่การเห็นอีกฝ่ายแต่งแบบนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันกระตุ้นอารมณ์ดิบเขาได้มากโข
กระโปรงกลาสีถูกถลกขึ้นไปกองอยู่ที่เอวคอด
ตามด้วยกางเกงในซึ่งตอนนี้ไม่สามารถปกปิดก้นขาว ๆ เอาไว้ ชานยอลไม่ไหวแล้ว...
ภาพตรงหน้ากำลังปั่นหัวเขาเหมือนย้ำความคิดที่ว่าบยอนแบคฮยอนในร่างบยอนแบคฮีนั้นน่าปู้ยี้ปู้ยำมากแค่ไหน
“อ๊ะ!”
ก้นขาวสั่นตามแรงฟาดก่อนจะขึ้นริ้วแดงระเรื่อ คนตัวเล็กมองอีกฝ่ายที่กำลังแหวกเนินเนื้อก้นของเขาออก
ก่อนจะหลับตากัดริมฝีปากล่างแน่นเมื่อรู้สึกได้ถึงลิ้นอุ่น ๆ ที่เขาชอบนักชอบหนา
...ชานยอลเป็นคนลามก ส่วนเขาก็เช่นกัน
เรื่องนี้เราทั้งคู่เข้ากันได้ดีเหลือเกิน
มือข้างหนึ่งยันผนังไว้
ส่วนมืออีกข้างจับกระโปรงที่กองอยู่กับเอว คนตัวเล็กโก่งสะโพกรับลิ้นที่กระหวัดรัวไม่หยุดจนร้องเสียงหลง
เสียงเฉอะแฉะของน้ำลายลามกและน่าฟังเหลือเกิน คราวนี้ถึงตาแบคฮยอนแล้วที่เป็นฝ่ายถูกแกล้ง
เพราะผู้ชายที่เขาวางยาไว้ให้เกิดอารมณ์หนัก ๆ กำลังเอาท่อนเอ็นอุ่น ๆ
ถูไถไปกับร่องก้นของเขาโดยไม่ยอมสอดใส่เข้ามาสักที
“ทำบ้าอะไรอยู่”
“มองก้นน้องแบคฮีอยู่ค่ะ”
“ตลกเหรอ?”
คนตัวเล็กมองค้อน
ก่อนจะเบิกตาค้างเพราะไอ้คนหื่นกามดันสอดใส่เข้ามารวดเดียวในตอนทีเผลอ
เล่นเอาจุกไปทั่วท้องจนต้องจิกปลายเท้าแน่น “ไอ้บ้าเอ๊ย
เดี๋ยวเจอดีแน่... อะ... อื้อ!”
“น้องเจ็บเหรอคะ เดี๋ยวพี่ชานยอลเป่าเพี้ยงให้นะ”
ชายหนุ่มกอดเอวคนตัวเล็กจากข้างหลังพร้อมกระซิบข้างใบหู จูบขมับชื้นแรง ๆ แล้วดันแก่นกายย้ำเข้าไปอีกครั้งจนคนตัวเล็กแอ่นตัวเข้าหาผนังห้อง
“รู้จักคำว่าค่อย ๆ ใส่ไหม
รีบมากทำไมไม่ทำตั้งแต่เมื่อวานเลยล่ะ?” เสียงหอบกระเส่าที่มาพร้อมคำด่านี่แม่งฟินจังว่ะ ปาร์คชานยอลอาจจะเป็นโรคจิตอย่างหนึ่งก็ได้ที่ชอบให้แบคฮยอนด่าเวลามีอะไรกัน
“ทำเป็นพูดดี
เมื่อวานอยู่ให้เอาไหม ก็ไม่”
“อ๊า!
ไอ้บ้านี่! ฉันเจ็บนะ”
แบคฮยอนร้องเสียงหลงทันทีที่ถูกตีก้นอีกครั้ง
“เหรอ? แล้วเจ็บเท่าตอนทำครั้งแรกไหม หืม?”
“อะ... ฮะ!
ไอ้...! อ๊า!”
คนตัวเล็กเชิดหน้าครางกระเส่า วิกสีเข้มที่เคยจัดให้เข้าทรงนั้นยุ่งเหยิงจนเข้าปาก
ชานยอลกระแทกเข้ามาลึกมากและชักออกจนเกือบสุดก่อนจะใส่เข้ามาอีก
ทำอย่างนั้นอยู่ซ้ำ ๆ จนเขาแทบยืนไม่ไหว
“วันหลังใส่วิกมาอีกสิ
เล่นโรลเพล์กัน... ซี๊ด...”
“คิดอะไรพิเรนทร์อีกแล้วสิ... อ๊ะ! ไอ้คนลามก” ชานยอลถอนกายออกแล้วจับให้จับคนพูดไม่เพราะหันหน้าเข้าหา
พร้อมอุ้มเข้าเอวและจับแก่นกายใส่เข้าไปในช่องทางด้านหลังอีกครั้งโดยไม่ปล่อยให้เสียเวลามากไปกว่านี้
“อยากเล่นบทครูสอนดนตรีกับเด็กเรียนใจแตกอะ จัดให้หน่อยดิ”
“ปากดี อยากเล่นก็ใส่วิกเองแล้วกัน”
แบคฮยอนงับปากอีกคนไว้ทั้งที่ยังสบตากันอยู่ ทั้งคู่สบตากันอย่างหยั่งเชิงก่อนจะแลกลิ้นจูบอย่างร้อนแรงจนลิปสติกสีชมพูเลอะขอบปากเป็นริ้ว
ร่างกายของเรารวมกันเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง
ช่องทางรักที่รับแก่นกายไว้ทั้งหมดก็ยังคงตอดรัดอย่างเป็นจังหวะขณะที่จูบของเราเริ่มร้อนแรงยิ่งขึ้น
ชานยอลคงมันเขี้ยวยัยแบคฮีมากถึงได้ฟาดมือลงบนสะโพกเขาหลายต่อหลายครั้ง
อีกทั้งยังพูดจาหื่น ๆ ใส่เหมือนกับว่าค่ำคืนนี้จะไม่จบลงง่าย ๆ
จนกว่าเหงื่อของเราจะออกจนหมดตัว
เพื่อนเหรอ... เพื่อนที่ไหนทำแบบนี้ ก็อาจจะเพื่อนอย่างบยอนแบคฮยอนกับปาร์คชานยอลล่ะมั้งที่อยู่ด้วยกันได้โดยไม่ต้องตั้งคำถาม
อาจเป็นเพราะเรากลัวอนาคตที่ไม่รู้ว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลง
แต่ความผูกมัดมันก็เป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้สูญเสียอีกฝ่ายไปจนไม่กล้าแลก
ชานยอลรักแบคฮยอน
และแบคฮยอนก็รักชานยอลเช่นกัน
เราทั้งคู่ต่างซ่อนคำว่า ‘รัก’ เอาไว้ในคำว่า ‘เพื่อน’
และเราจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป
END
เป็นแค่ฟิคเอากันเฉย ๆ ก็ยังทัมมาเปงซึ้งตอนจบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น