“อื้ออออ...แจ๊บๆ ”
“นอนลงไป”
พอถึงห้องจงอินก็ปล่อยร่างเทาให้ลงไปนอนกับพื้นอย่างไม่ใยดีจนเซฮุนต้องรีบลงไปช่วยประคอง
ร่างหนายืนมองไอ้เจ๊กที่กำลังเคี้ยวน้ำลายแจ๊บ ๆ แล้วก็นึกเวทนาอยู่ในใจ มึงหลับให้นาน
ๆ นะครับอย่าเสือกตื่นขึ้นมาล่ะ
หันไปทางด้านขวาก็เห็นแบคฮยอนนอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเตียง
ผ้าห่มที่ขึ้นคลุมจนถึงคอทำให้เขาพอจะโล่งใจไปได้บ้างว่าเด็กนั่นคงไม่ลุกขึ้นมาเชิดสิงโตเหมือนไอ้ห่าเจ๊กนี่แน่นอน
พอ
จัดการกับเทาเรียบร้อยก็ออกมาข้างนอก ทันทีที่เหยียบเข้าไปในห้องก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเพราะเสียงประตูที่ปิดลงด้วย
มือของคนที่ยืนซ้อนอยู่ข้างหลัง เซฮุนเอี้ยวหน้าหันกลับไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ถึงจะแค่เสี้ยววินาทีแต่แววตาที่กำลังจ้องมาอย่างคาดโทษนั่นแหละที่ทำให้เขา
ต้องหลุบสายตาลง
“กลิ่นเหล้าหึ่งเลยนะ”
“ขอโทษครับ...”
“บอกว่าไม่ให้พูดคำนี้ไง”
“แล้วจะให้ผมพูดคำไหน” เด็กหนุ่มค่อย
ๆ เงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่าย จงอินยังคงมองเขาด้วยแววตาเหมือนในทีแรก “ที่ขอโทษก็เพราะรู้ว่าทำผิดไงครับ”
“แล้ว?”
“ผมอธิบายได้นะ...” ร่างบางแผ่วเสียงลงเมื่ออีกคนเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้
“จงอินครับ...” แววตาคู่นี้เปลี่ยนไปตามระยะห่างที่ขยับเข้ามาใกล้
เซฮุนปิดเปลือกตาลงเมื่อถูกเชยคางขึ้น ริมฝีปากหยักกดจูบลงไปเบา ๆ
แช่ไว้ก่อนที่มืออีกข้างจะวางลงบนเอวคอด ค่อย ๆ
สอดไปข้างหลังแล้วรั้งคนตัวบางเข้ามาแนบกับแผงอกแกร่ง
ร่าง หนาถอนจูบออกเพียงเล็กน้อยพลางจ้องมองใบหน้าที่ขึ้นริ้วแดงของอีกฝ่าย
อย่างที่รู้มาตั้งแต่แรกว่าโอเซฮุนทำเป็นอยู่แค่สองหน้าคือปั้นหน้านิ่งกับ
ยิ้มตาปิดแต่ตอนนี้เขาเริ่มจะหวั่นใจกับสีหน้าของเด็กคนนี้ในแบบที่เขาไม่ เคยเห็น
ดวงตาฉ่ำหวานกำลังช้อนมองราวกับเป็นการเชิญชวนแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้ตั้งใจ
แสดงมันออกมาแบบนั้นก็ตามที
ไหนจะลิ้นเล็กที่กำลังเลียไปตามริมฝีปากตัวเองอย่างเคยตัวนั่นอีก
เด็กนี่จะเอายังไงกับเขากันแน่อยากจะรู้
บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าโอเซฮุนจงใจแกล้งปั่นหัวเขาอยู่หรือเปล่า? แตะนิ้วหัวแม่มือลงบนริมฝีปากนุ่มแล้วค่อย
ๆ ไล้เบา ๆขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ไม่ไปไหน
“เอาสิ” เด็กหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อคนตรงหน้าพูดประโยคปลายเปิด
“อธิบายมาว่าเรื่องมันเป็นยังไง” โล่งใจขึ้นมาหน่อย
อย่างน้อยคิมจงอินก็ไม่ได้ใจร้ายใจดำปั้นหน้าโกรธแล้วแกล้งให้เขารู้สึกแปลก ๆ
กับสัมผัสเมื่อครู่ แต่ยังไม่ทันอ้าปากอธิบายอะไรก็ต้องหดคอลงเมื่ออีกฝ่ายโน้มตัวเข้ามาฝังจมูกลงบนซอกคอของเขา
“จ...”
“หืม?ทำไมไม่เล่าล่ะ?” ผละออกมาเพียงเล็กน้อยเพื่อกระซิบข้างหูคนตัวบางที่กำลังยืนเกร็งตัวอยู่
เซฮุนผ่อนลมหายใจออกพลางเม้มริมฝีปากแน่นเมื่ออีกคนกดจูบลงบนซอกคอเขาอีกครั้งพร้อมกับคลอเคลียไล่ขึ้นมาจนถึงกกหู
“คือ...” ร่างบางกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ
บางทีเขาก็ไม่เข้าใจร่างกายของตัวเอง
แค่ถูกจงอินสัมผัสแค่นี้ทำไมถึงได้รู้สึกเลยเถิดไปจนเกิดความละอายใจขึ้นมา
จะโทษว่าเป็นเพราะเหล้าก็คงไม่ถูกแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีส่วน
แอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายมันก็แค่ทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าที่เคย
ครับ...คุณไม่ต้องเข้าใจหรอกว่าผมกำลังพูดถึงเรื่องอะไร...
“เทา...กับแบคฮยอน...อ...” การพยายามพูดออกมาให้เป็นประโยคมันกลายเป็นเรื่องยากลำบากตั้งแต่เมื่อไหร่
เสียงกึกดังขึ้นเพราะแผ่นหลังบางที่เซถอยหลังไปพิงกับประตูตามแรงดันของคนขี้แกล้ง
เซ
ฮุนหอบหายใจหนักเพียงแค่ถูกมือหนาลูบไล้ไปตามหน้าท้อง...มือหยาบกร้านที่ฆ่า
พวกกินคนมานับไม่ถ้วนแต่คงมีแค่โอเซฮุนเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รับรู้ถึง
ความอ่อนโยนของมัน
ลิ้นสากที่ลากไปตามโครงหน้าไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไรไปมากกว่าขนลุกไปทั้ง ตัว
ความรู้สึกวาบหวิวจนแทบยืนทรงตัวไม่ไหวหากว่าเข่าของคนตรงหน้าไม่ดันหว่างขา
เขาเอาไว้
แต่คนอย่างคิมจงอินน่ะร้ายกาจกว่าที่คิด...
“เล่าต่อสิ...ฉันฟังอยู่” ริมฝีปากยังคงทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่อง
เซฮุนปิดเปลือกตาลงแล้วขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้อีกฝ่ายถอดเสื้อกันหนาวตัวหนาลงไปกองบนพื้น
ร่างบางเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อคนตรงหน้าค่อย ๆ
เลื่อนตัวลงต่ำก่อนจะถลกชายเสื้อยืดสีขาวของเขาขึ้นมาแล้วมุดเข้าไปข้างใน
“แบคฮยอน...”
“หืม?”
“แค่...อยากลองดื่ม...น่ะครับ”
“...”
“แล้วมินซ...อืม...”
ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อริมฝีปากหนากดจูบลงบนเนื้อผิวสลับกับลากลิ้นร้อน
เสียงครางแผ่วหลุดออกมาให้ได้ยินเป็นระยะจนฝ่ายกระทำลอบยิ้มพอใจ
สองมือเรียวบีบหัวไหล่คนขี้แกล้งเพื่อผ่อนคลายอารมณ์
ใบหน้าเรียวเชิดขึ้นพลางหลับตาพริ้มเมื่อยอดอกกำลังถูกปรนเปรอด้วยลิ้นร้อนที่กำลังกระตุ้นอารมณ์เขาให้พุ่งสูงกว่าที่เป็นอยู่
ร่างหนาผละตัวออกมาเพื่อจ้องดวงตาของอีกฝ่ายที่กำลังปรือมองเขา
ตอนนี้ในหัวไม่มีแม้แต่เรื่องหาเสบียงหรือเรื่องของวันพรุ่งนี้
สมองกำลังประมวลว่าถ้าคิมจงอินเป็นคนฉลาดพอเขาจะต้องจัดการกับเด็กคนนี้แทนที่จะปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปอย่างเนิบนาบ
“รู้ใช่ไหมว่าทำผิดแล้วต้องโดนทำโทษ”
“...”
ใจ จริงก็อยากจะค่อยเป็นค่อยไปหรอกนะ
คิดว่าจะแกล้งให้โอเซฮุนทรมานเล่น ๆ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ
กลับกลายเป็นเขาแทนแล้วล่ะที่จะทนไม่ไหว
ริมฝีปากบางเผยอรับจูบร้อนแรงที่อีกฝ่ายโถมเข้ามาโดยที่ทันได้ตั้งตัวจนรส
จูบหวานในทีแรกถูกลืมไปในพริบตา ทั้งที่ไม่มีรสขมปร่าของเหล้าแต่โพรงปากหวานของคนตรงหน้ากลับมอมเมาเขาได้
เซฮุนยกแขนทั้งสองข้างอย่างว่าง่ายเมื่ออีกฝ่ายถลกชายเสื้อของเขาขึ้น
แต่ยังไม่ทันถอดออกหมดคนใจร้อนก็เข้ามาประกบริมฝีปากอีกครั้งทั้งที่คอเสื้อยืดยังติดอยู่ที่ปลายจมูกรั้น
มองไม่เห็น...ไม่เห็นว่าตอนนี้จงอินทำสีหน้าแบบไหน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ
ว่าตอนนี้ร่างกายของโอเซฮุนกำลังจะระเบิดออกมาเป็นชิ้น ๆ
เพราะผู้ชายที่ชื่อคิมจงอิน
“อืม...”
รส จูบร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
สุดท้ายเซฮุนก็ทนไม่ไหวจนต้องเป็นฝ่ายถอดเสื้อที่ค้างคาอยู่ออกไปเองก่อนจะ
ตวัดแขนโอบกอดรอบคอหนาเอาไว้แล้วรั้งเข้ามาเพื่อสัมผัสที่แนบแน่นยิ่งขึ้น
จะต้องจูบกันไปถึงเมื่อไหร่ถึงจะพอ? เขามักจะถามตัวเองแบบนี้ทุกครั้งที่ได้จูบกับจงอิน
มันไม่เคยพอ...อยากกอดอยากจูบอยู่อย่างนี้
สัมผัสทุกอย่างของจงอินทำให้รู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลก
กอดที่แสดงถึงความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมาให้รับรู้แม้ว่าคำพูดนั้นจะไม่เคยหลุดออกมาจากปาก
จงอินถอนจูบออกมาอีกครั้งแล้วจ้องใบหน้าที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับรสจูบจนแทบทรงตัวไม่ไหวหากไม่ได้สองแขนตวัดกอดรอบคอเขาเอาไว้
“นี่คือวิธีลงโทษของคุณเหรอครับจงอิน...”
คนถูกถามกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินแบบนั้น
ร่างหนาถอดเสื้อกันหนาวออกแล้วโยนทิ้งไปให้พ้นทางแล้วต่อด้วยเสื้อยืดสีน้ำตาลตัวข้างใน
เซฮุนได้เพียงแต่ยืนมองอีกฝ่าย จงอินจับมือเรียวทั้งสองข้างขึ้นมาทาบแก้มตัวเองทั้งที่ยังจ้องหน้าร่างบางอยู่ไม่ห่างก่อนจะค่อย
ๆ ลากมือนั้นลงไปตามต้นคอแกร่ง
เซฮุนเกร็งมือที่กำลังลูบไล้ไปตามเนื้อผิวสีแทนของคนตรงหน้า มันค่อย ๆ
ลากลงต่ำเรื่อย ๆ จนลงมาหยุดอยู่ที่หน้าท้อง
ร่าง บางหน้าขึ้นสีมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เมื่อคนขี้แกล้งจับมือเขาวางไว้บนหัว
เข็มขัด นัยน์ตาเรียวช้อนมองใบหน้าคมที่กำลังจับจ้องเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความ
ต้องการ...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกไม่ใช่ครั้งที่สองและไม่ใช่ครั้งที่สาม...แต่
ทำไมโอเซฮุนถึงไม่ชินกับเรื่องแบบนี้สักทีนะ?
เข็มขัด หนังสีดำที่เป็นอุปสรรคกำลังถูกแกะออกด้วยมือของเขาและดูเหมือนว่ามันจะ
สร้างความพึงพอใจให้กับจงอินอยู่พอสมควรที่เห็นร่างบางยอมโอนอ่อนโดยไม่มี ข้อแม้ใด
ๆ ปราการที่สองคือกระดุมและซิปกางเกง
ที่โอเซฮุนกลายเป็นเด็กทะลึ่งตึงตังแบบนี้จะโทษใครไม่ได้นอกจากคิมจงอินที่ สอนให้เขาทำเรื่องลามกได้เองโดยไม่ต้องปริปากบอก
“ฉันช่วย” มันคงจะดีกว่านี้ถ้าจงอินลงมือจัดการกับกางเกงของเขาโดยที่ไม่ต้องบอกก่อน
น้ำเสียงที่มาพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นน่ะ...จะแกล้งกันไปถึงไหน...
กางเกง
ยีนส์ลดลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้าและตามมาด้วยชั้นในที่เป็นปราการสุดท้าย
เปล่าเลย...ที่พูดน่ะมันไม่ใช่ของจงอินแต่ทุกชิ้นส่วนที่กองอยู่ข้างล่างมัน
คือของเขาต่างหาก เซฮุนเม้มริมฝีปากเมื่อถูกจับจ้องทุกอากัปกิริยา
เปลือกตาบางหลับลงเมื่ออีกฝ่ายจับมือของเขาสอดเข้าไปในกางเกงสีเข้มที่เพิ่ง
ถูกรูดซิปลงไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น
“ยังจะอายอะไรอีกหืม...” เสียงกระซิบแหบพร่าของอีกคนกำลังทำให้เขาเป็นบ้าเมื่อสัมผัสได้ถึงส่วนตื่นตัวในกางเกง
เซฮุนพยายามชักมือกลับแต่ก็ไม่เป็นผล
เสียงครางแผ่วข้างหูที่บอกให้รู้ถึงความพอใจนั่นแหละที่ทำให้เขาเริ่มเปลี่ยนใจที่จะหยุดการกระทำ
ร่างบางใช้มือข้างที่ว่างอยู่ดึงหัวกางเกงอีกคนลง
ในทีแรกมันดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากแต่จงอินก็ไม่ได้ใจร้ายไปเลยเสียทีเดียว
ร่างหนาใช้มืออีกข้างช่วยอีกคนปลดกางเกงออกไป
“ขยับออกนิดนึงสิ...”เซฮุนหดคอลงเพียงแค่ถูกพ่นลมหายใจอุ่นร้อนรดต้นคอ
ร่างเปลือยเปล่าของอีกฝ่ายที่มองยังไงก็ยังทำให้หน้าขึ้นสีได้ทุกครั้งทำให้ร่างบางซุกหน้าลงกับไหล่กว้างเพื่อหาที่พึ่ง
ขาข้างหนึ่งถูกยกขึ้นพาดเอวโดยมีมือแกร่งประคองเอาไว้
ดูเหมือนว่าโอเซฮุนกำลังจะเจอเรื่องยากเมื่อคนตรงหน้าคิดเรื่องพิเรนทร์อีกแล้ว
เสียงติดขัดในลำคอตามมาหลังก้านนิ้วยาวแทรกเข้าไปในช่องทางด้านหลัง
แน่นอนว่าทุกครั้งมันต้องแลกมาซึ่งความเจ็บปวดก่อนจะเปลี่ยนเป็นสุขสมจนแทบสำลักออกมา
เล็บที่เริ่มยาวขึ้นจิกลงบนผิวสีแทนเพื่อระบายความเจ็บขณะที่ร่างกายกำลังปรับตัวให้คุ้นชินกับสัมผัสนั้น
นิ้วเรียวยาวขยับเข้าออกอย่างช้า ๆ ก่อนจะเพิ่มนิ้วที่สองเข้าไป เสียงครางแผ่วที่อยู่ข้างหูปลุกอารมณ์จนแทบอยากข้ามขั้นตอนอีกแล้ว
แต่คราวนี้คิมจงอินได้แต่ย้ำบอกกับตัวเองให้ใจเย็นเข้าไว้
“ตร...ตรงนี้เหรอครับ...”
“ใช่ ตรงนี้แหละ...”
“แต่...”
“คิดดูสิว่ากว่าจะเดินไปถึงเตียงมันต้องเสียเวลาไปตั้งเท่าไหร่...?” คนเจ้าเล่ห์กดจูบลงบนใบหูคนที่ซบหน้าอยู่กับหัวไหล่เขาพร้อมกับเร่งจังหวะ
เรียวนิ้วให้เร็วยิ่งขึ้นจนรู้สึกได้ถึงแรงจิกของปลายเล็บตรงช่วงหลัง
“อ...อา...”
“ชู่ว์...” ร่างบางเม้มริมฝีปากแน่นหลังจากได้ยินเสียงลมอ่อน
ๆ ที่เป็นเชิงบอกให้เงียบลงก่อนที่ใครจะมาได้ยินเข้า ทุกครั้งที่เกิดขึ้น...หมอนคือสิ่งเดียวที่ช่วยสกัดเสียงน่าเกลียดเอาไว้เพราะห้องของเขาไม่ได้เก็บเสียงเหมือนตอนที่อยู่โมเทล
พอรู้สึกว่าช่องทางที่เคยบีบรัดเริ่มคลายตัวออกร่างหนาก็กระชับเรียวขาข้างหนึ่งที่พาดอยู่กับเอวก่อนจะสอดส่วนนั้นเข้าไปอย่างช้า
ๆ ร่างบางหอบหายใจหนักเมื่อส่วนที่ใหญ่โตกว่านิ้วกำลังแทรกเข้ามา
รู้สึกได้ถึงเรียวขาที่กำลังสั่นเกร็งแต่ความสงสารกลับไม่ได้อยู่ในหัวของคนที่กำลังเต็มไปด้วยความต้องการ
กายร้อนขยับเข้าออกเนิบนาบ
เสียงลมหายใจติดขัดของโอเซฮุนนี่แหละที่เขาอยากได้ยิน
แผ่นหลังบางเสียดสีกับประตูขึ้นลงเป็นจังหวะตามการเคลื่อนไหวของผู้ชักนำ
ร่างหนาเลียริมฝีปากขณะมองอีกฝ่ายที่กำลังนิ่วหน้าเพราะความเสียวซ่าน
“อ...จงอิน...”
ร่าง
กายสั่นคลอนไปตามแรงส่งที่อีกฝ่ายมอบให้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
เซฮุนครางกระเส่าโผเข้ากอดร่างหนาพร้อมกับขย้ำกลุ่มผมเผื่อผ่อนคลายอารมณ์ สองร่างนัวเนียกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
ทฤษฎีฉบับคิมจงอินได้กล่าวไว้ว่าคนที่ดื่มเหล้าถ้าไม่เมาหลับก็ต้องมีอารมณ์
ทางเพศสุด ๆ
ซึ่งเขาเป็นประเภทที่สองและเขาขอตัดสินให้เองเลยตรงนี้ว่าที่ร่างกายของเซ
ฮุนกำลังตอบรับเขาเป็นอย่างดีส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะฤทธิ์เหล้า
“อ่ะ...” ร่างบางถูกจับพลิกให้หันหน้าเข้าหาประตู
สองมือเรียวทาบวางลงกับแผ่นไม้สักสไตล์โมเดิร์นสีน้ำตาลเข้มไว้เป็นหลักก่อน
จะนิ่วหน้าเมื่อกายร้อนถูกส่งเข้ามาอีกครั้งอย่างง่ายดายโดยไม่ทิ้งช่วงไว้
นานเกินไป
มือหนายึดเอวคอดเอาไว้แล้วส่งกายเข้าออกเร็วรัวจนร่างบางสั่นคลอนไปตามแรงส่ง
ร่างบางกัดริมฝีปากล่างจนเลือดห้อเพื่อกลั้นเสียง ความซ่านเสียวพุ่งขึ้นสูงเรื่อย
ๆ กับความล้ำลึกจากท่วงท่าที่เป็นอยู่
ไม่ไหวแล้ว...วิธีทำโทษของจงอินกำลังจะทำให้เขาขาดใจตายเดี๋ยวนี้
“ร...แรงเกินไปแล้วครับ...”
“แต่ก็รู้สึกดีไม่ใช่เหรอ...?” คนทะลึ่งถามจบก็โน้มตัวลงกดจูบแผ่นหลังขาวเนียนที่เขาหลงใหล
กายร้อนยังคงทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่อง
ยิ่งได้ยินแบบนั้นเขาก็ยิ่งเคลื่อนตัวเร็วยิ่งขึ้นจนได้ยินเสียงครางที่หลุดออกมาจากริมฝีปากบางอย่างไม่ตั้งใจ
“อา...มันลึกไป...”
“อดทนหน่อยสิเซฮุนนา...อืม...”
“ไปที่เตียงนะครับ...ผมไม่ไหวแล้ว...”
“อย่าเสียงดังสิ...เดี๋ยวอี้ชิงก็ได้ยินหรอก” น้ำเสียงของจงอินไม่ได้แฝงไปด้วยความกลัวเลยสักนิด
กลับกันแล้วเขาสัมผัสได้แต่ความขี้แกล้งของผู้ชายคนนี้มากกว่า...ทั้งที่ปาก
ห้ามเตือน...แต่จงอินนั่นแหละที่กำลังทำให้ประตูสั่นคลอนจนผิดสังเกต
สมองขาวโพลนไปหมด
ขาทั้งสองข้างแทบทรงตัวต่อไปไม่ไหวเมื่อถูกปรนเปรอทั้งข้างหน้าและข้างหลัง
สถานการณ์ที่เป็นอยู่มันอดทำให้เขานึกถึงครั้งแรกไม่ได้
จงอินเป็นคนช่ำชองเรื่องอย่างว่ากับผู้ชายตั้งแต่เมื่อไหร่
ไม่ว่าจะสัมผัสตรงไหนเขาก็รู้สึกดีไปหมด...
กลั้น
เสียงต่อไปไม่ไหวแล้ว...ถ้าจะมีใครได้ยินเข้าก็ต้องโทษคนขี้แกล้ง
เขินจนแทบมุดแผ่นดินหนีเพียงแค่เอี้ยวหน้าหันกลับไปเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วย
ความสุขสม จงอินขบกรามแน่นขณะกระทั้นกายเข้าออกไม่หยุด
ทั้งคู่สบตากันแค่ครู่เดียวเซฮุนก็ต้องเป็นฝ่ายหลบตาไปก่อนเพียงแค่เห็นรอย
ยิ้มที่ติดอยู่มุมปากร่างหนา
“บอกแล้วใช่ไหม...ว่าเด็กไม่ดีต้องถูกทำโทษ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น