INSANE
chanyeol x baekhyun
คลับชื่อดังย่านกังนัมเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นลูกผู้รากมากดี
รวมถึงคนใหญ่คนโตที่มีอิทธิพลในสังคมทั้งแบบออกหน้าสื่อเป็นประจำและแบบที่คนนอกไม่รู้จักเนื่องจากคนเหล่านี้อยู่ในวงการด้านมืด
ซึ่ง ‘ปาร์คชานยอล’ จัดอยู่ในประเภทหลัง
เจ้าของสูทแดงเลือดนกเปิดอกทอดสายตาออกไปนอกกระจกใสขนาดใหญ่ของห้องวีไอพีที่สามารถเห็นทุกอย่างได้จากตรงนี้
เขานั่งเท้าศอกกับพนักวางแขนโซฟากำมะหยี่พลางพ่นควันบุหรี่ มองเหล่าหนุ่มสาวด้านล่างซึ่งพร้อมใจกันมาโชว์ความงี่เง่าผ่านลวดลายการเต้นที่บางคนก็ดูเซ็กซี่
แต่ก็มีบางคนที่ชวนกระอักกระอ่วนจนน่าหัวเราะ
มันเป็นกระแสนิยมที่เด็กหนุ่มสาวคิดกันไปเองว่าการแต่งตัวจัดไปเที่ยวคลับตอนกลางคืนคือสิ่งที่ควรทำก่อนแก่ตัวไป
‘ต้องเมาให้ปลิ้นแล้วหาใครสักคนไปนอนด้วย’
นั่นคือเป้าหมายของใครหลายคนที่เต้นเบียดเสียดกันอยู่ข้างล่างนั่น
ดูสิ... ไอ้ตัวผู้ตรงนั้นพยายามยกแขนขึ้นเพื่อโชว์นาฬิกาตัวเป็นสิบล้าน
ไหนจะเล่นหูเล่นตาจนดูประหลาด
ซึ่งมันคงคิดมาดีแล้วว่าราคานาฬิกาเรือนนั้นกับหนังหน้าที่กล้าเรียกว่าหล่อเพราะส่องกระจกชมตัวเองจะหลอกล่อเหยื่อได้
ซึ่งตอนนี้มีตัวเมียสวมเดรสเกาะอกสีเทาเข้ารูปกำลังหิวว่ะ หล่อนเนียนเต้นเข้าไปใกล้พร้อมบดสะโพกถูเป้ากางเกงไอ้เวรนั่นจนแทบจะหลวมรวมร่างกัน
บอกตามตรงว่าเขาชอบว่ะ แม่งตลกดี
นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ปาร์คชานยอลเลือกมาที่นี่แทนที่จะกลับเพนเฮาส์ไปนอนพักสมองหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับงานมาตลอดทั้งวัน
ได้มองผู้คนเหล่านั้นทำตัวประหลาด ๆ เพื่อให้ได้คู่นอนกลับไปในค่ำคืนนี้แล้วก็บันเทิงใช่ย่อย
คนพวกนั้นไม่จำเป็นต้องใช้สมองที่นี่
ขอเพียงหน้าตาดีและมีเงินเท่านั้นก็กลายเป็นซัมวันได้แล้ว เอ้า... ตรงนั้นก็จัดชุดใหญ่
แม่เสือสาวหน้าอกทะลักกำลังเต้นเรียกเหยื่อแบบที่ถ้าคนเห็นใจไม่แข็งพอไอ้นั่นก็คงแข็งแทน
แล้วไอ้ตัวผู้ที่พลาดไปเห็นก็ตาวาวรีบแทรกผู้คนเข้าไปเนียนยืนซ้อนหลัง เต้นสีกันพร้อมลูบไล้อย่างไม่เกรงใจ
ซึ่งปาร์คชานยอลขอเดาเลยว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าคงลากกันไปขย้ำในห้องน้ำ
หรือถ้ามีความอดทนหน่อยก็คงลงทุนขับรถไปเช็กอินที่โรงแรม
“นายครับ พี่ซุงแจยังคุกเข่าอยู่หน้าคาสิโนอยู่เลย...
เขาบอกว่าจะไม่ไปไหนจนกว่านายจะให้อภัยครับ...”
“...”
“เขาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจหักหลังนาย --”
คำพูดที่เหลือถูกกลืนลงคอเมื่อคนเป็นนายยกมือขึ้นเป็นเชิงห้าม
ลูกน้องสูทดำนับสิบที่ยืนอยู่ชิดผนังด้านหลังต่างมองกันเลิ่กลั่ก
กลัวว่าคราวซวยจะมาเยือนโดยไม่รู้ตัวเพียงเพราะรุ่นพี่ตรงหน้าเริ่มแก้ตัวให้ใครคนหนึ่งซึ่งกลายเป็นคนทรยศไปแล้ว
“เมื่อกลางวันกูบอกว่ายังไง?”
“นายบอกว่าถ้าพี่ซุงแจโผล่หน้ามาอีกให้เรียกการ์ดไปรุมกระทืบจนกว่าจะไสหัวไปครับ...”
“แล้วมีใครทำตามที่กูสั่งไหม?”
“...”
“แทอิน มึงหูหนวกเหรอ?” คนเป็นนายหันมาสบตาจนเจ้าของชื่อต้องก้มหน้าพลางกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ
ปาร์คชานยอลกำลังไม่สบอารมณ์ การดูละครลิงของพวกหนุ่มสาวหน้าโง่ด้านล่างพังเละเทะไม่เป็นท่าเพราะไอ้ลูกน้องหยำฉ่าที่กล้าหักหลังเขาด้วยการทำตัวเป็นนกสองหัว
คาบข่าวไปบอกคู่แข่งจนธุรกิจในเครือปาร์คต้องเสียรายได้ไปเป็นพัน ๆ ล้านวอน
“พี่ซุงแจอยู่กับพวกเรามานาน
ผมเลยอยากขอให้นายพิจารณาดูสักครั้ง...”
ก้นบุหรี่ถูกบี้จนดับพร้อมควันสีหม่นที่พ่นออกมาเป็นครั้งสุดท้าย
ชายหนุ่มลูบผมส่วนอันเดอร์คัทด้านข้างระหว่างสงบสติอารมณ์ ก่อนสายตาจะหยุดอยู่ที่ใครคนหนึ่งตรงหน้าเคาท์เตอร์บาร์
“เรื่องที่เขาทำมันร้ายแรงจริง ๆ
ผมเข้าใจที่นายโกรธนะครับ”
ชานยอลไม่ได้สนใจแล้วว่าลูกน้องกำลังพูดอะไร
เพราะตอนนี้เขากำลังให้ความสนใจผู้ชายคนนั้นซึ่งพอใช้เวลาจับตามองก็รู้ได้ว่าค่อนข้างแตกต่างจากเหล่าวัยรุ่นหน้าโง่อย่างสิ้นเชิง
ดูผมสีบลอนด์เทาที่ปรกหน้าปรกตาจนดูเกะกะนั่นสิ เขาอยากจะเสยขึ้นให้พร้อมออกแรงกำจนหน้าเชิดขึ้นเพื่อให้ได้เห็นชัด
ๆ ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร และเหมือนเจ้าตัวจะรู้ถึงจินตนาการของชายหนุ่มที่มองจากห้องวีไอพี...
ถึงได้เสยผมขึ้นพร้อมเอียงศีรษะเล็กน้อยจนเขาได้เห็นดวงตาคู่นั้นและริมฝีปากกระจับได้รูปในที่สุด
เสียงลูกน้องยังคงพล่ามไปเรื่อย ๆ และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ปาร์คชานยอลอยากเก็บใส่รูหู
ขณะเดียวกันฝั่งด้านล่างก็มีไอ้เบื๊อกเข้าไปทักทายเป้าหมายเดียวที่อยู่ในสายตาเขา เกิดเดจาวูอยู่อย่างนั้นราว
ๆ สามคนแต่ก็ต้องเดินหน้าแตกกลับไปทุกรายเพราะถูกปฏิเสธซึ่งชานยอลไม่รู้ว่าอีกฝ่ายใช้คำพูดแบบไหน
ที่นี่ไม่ได้มีแค่ผู้หญิงกับผู้ชาย
กลับกันแล้วเพศทางเลือกก็ยังมีมากมายชนิดว่ามองด้วยตาเปล่าก็ดูออกทันที ซึ่งชานยอลมั่นใจว่าคนตัวเล็กคงไม่ใช่ชายแท้
สังเกตจากการแต่งตัวที่ไม่ได้จัดจ้านจนดูเวอร์ แต่ก็ไม่ได้ดูธรรมดาจนต้องเมิน
อะ คราวนี้มีไอ้หน้าเห่ยแต่งตัวอวดรวยด้วยแบรนด์เนมทุกชิ้นตรงเข้าไปขอชนแก้วกับคนตัวเล็กอีกแล้ววว่ะ
เดาได้ไม่ยากว่ามันคงขอเบอร์และถามด้วยประโยคยอดฮิตว่า ‘ถ้าไม่รังเกียจ
ดื่มกับผมสักแก้วนะครับ’ หรือไม่ก็ ‘มาคนเดียวเหรอครับ?’
ก็แหงสิ ถ้ามากับหมาก็คงเห็นมันเห่าอยู่ใต้หว่างขามึงนั่นแหละลองก้มลงมองดู
ชานยอลไม่ได้ถึงขั้นไม่ชอบใจ แต่ก็ไม่สบายลูกตาอย่างบอกไม่ถูก
ถ้าคนตัวเล็กจะตกลงปลงใจไปกับไอ้เห่ยนั่นกะอีแค่เรื่องความอวดรวยล่ะก็นะ
ค่ำคืนนี้จะจบลงด้วยความเซ็งอย่างถึงขีดสุดและคงไม่มีอะไรมาดีดอารมณ์เขาให้ดีขึ้นได้
มันต้องมีสักคนที่ไม่ปัญญานิ่มเหมือนวัยรุ่นพวกนั้นที่ดีแต่โชว์ท่าเต้นโง่ ๆ สิวะ
และชานยอลโคตรคาดหวังเลยว่าคนตัวเล็กจะไม่ใช่
แต่สุดท้ายอีกฝ่ายก็ไม่ใจร้ายกับเขาจนเกินไป
ไอ้เห่ยถึงได้เดินชักสีหน้ากลับไปมือเปล่าโดยไม่ได้ฟาดมือลงบนก้นที่เขาค่อนข้างอยากรู้แล้วว่าจะแน่นสักแค่ไหน?
“ฮึ...”
ลูกน้องนับสิบที่อยู่ด้านหลังถึงกับหันไปมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจเมื่ออยู่
ๆ เจ้านายก็หลุดขำออกมาทั้งที่เมื่อครู่เมื่อครู่นี้ยังทำท่าเหมือนจะเอาระเบิดลงกลางหัวพวกเขาให้ได้
ทุกคนต่างรู้ดีวว่าปาร์คชานยอลไปสุดทางแค่ไหนถ้าเป็นเรื่องเลือดเย็น
“ท่าจะเล่นตัวเก่ง” สิ้นสุดคำพูดชายหนุ่มก็ยันตัวลุกขึ้นเต็มความสูง
เขาขยับสูทสีเลือดนกอยู่ในทีพลางฉีดสเปรย์ดับกลิ่นบุหรี่ที่อัดเข้าไปหลายมวนเพราะเรื่องงี่เง่าจากพวกลูกน้องเลี้ยงเสียข้าวสุก
“นะ... นายครับ”
“พวกมึงไปลากมันออกจากหน้าคาสิโนกู กระทืบแม่งให้ยับแต่อย่าปล่อยให้มันสลบ”
ชายหนุ่มกวาดสายตาสั่งเรียงคน ก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคังแทอิน
คนที่พยายามแก้ตัวให้ไอ้คนทรยศมาตลอดหลายนาที “เพราะมึงจะเป็นคนทำให้มันสลบตลอดไปด้วยปืนกระบอกนี้”
“...” แทอินยืนตัวเกร็งเมื่อรู้สึกได้ถึงปลายกระบอกปืนของตนเองที่เจ้านายคว้าออกมาเล็งตรงกลางอกเขา
ก่อนมันจะถูกเก็บกลับเข้าที่เดิมพร้อมรอยยิ้มของเจ้านายซึ่งแทอินรู้ดีว่าไม่ได้สื่อในแง่ดี
“เข้าใจแล้วก็รีบไปจัดการให้เรียบร้อย”
“ครับนาย!”
ในห้องวีไอพีเหลือเพียงคนเป็นนายกับลูกน้องที่อยู่ด้วยกันมานาน
ชานยอลเข้าใจว่าทำไมแทอินถึงพยายามแก้ตัวให้ไอ้เวรนั่น เพราะทั้งคู่เข้ามาทำงานพร้อมกันและปฏิญาณตนซะเสียงดังว่าจะไม่ทรยศ
ดังนั้นมันจะผูกพันกันก็คงไม่แปลก
แต่รู้ทั้งรู้ว่าความรู้สึกเหล่านั้นคือจุดอ่อน
แต่ก็เสือกเลือกเอามาใช้กับคนอย่างปาร์คชานยอลเสียอย่างนั้น
คิดว่าอยู่ด้วยกันมานานเลยจะได้สิทธิพิเศษกว่าใครงั้นหรือ
ก็คงใช่ถ้าเป็นเรื่องอื่น แต่ไอ้เรื่องความเสียหายเป็นพัน ๆ
ล้านวอนนี่ให้พ่อไอ้เปรตนั่นไปอภัยกันเองนะ
ชานยอลหยุดอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายพลางวางมือลงบนไหล่ที่ห่อลง
เขารู้สึกได้ถึงความประหม่า แต่ไอ้แทอินก็กล้าดีที่เลือกเสี่ยงดวงเพราะมันคงรู้ตัวว่าเขาไม่กล้ายิงทิ้งเพราะมันยังมีประโยชน์อยู่
“สิ่งที่กูเกลียดที่สุดรองจากแครอทก็คือคนทรยศ
จำได้ใช่ไหม?”
“...” หลังจากสิ้นเสียงเจ้านาย
แทอินก็พยักหน้าช้า ๆ
“เยี่ยม มันต้องอย่างนี้สิ มึงเป็นลูกน้องที่ดี ทำงานก็เก่ง
เดี๋ยวงานหน้ากูคงต้องตบรางวัลใหญ่ให้สักหน่อยแล้ว” เจ้าของคำพูดยิ้มขำพลางล้วงเอากระเป๋าเงินออกมาจากกางเกงลูกน้อง
ชานยอลเห็นว่าแทอินเลิกคิ้วมองเป็นเชิงถามว่าจะเอากระเป๋าเงินมันไปทำซากอะไร
ซึ่งเขาก็ขี้เกียจอ้าปากอธิบายถึงเรื่องที่จะส่งผลถึงกำไรแต่ใครก็ไม่จำเป็นต้องรู้
*
แม้ว่าโดยรอบจะดังกึกก้องไปด้วยเสียงเพลง แต่บยอนแบคฮยอนกลับรู้สึกเหมือนกำลังดำดิ่งอยู่ในวังวนที่เรียกว่าความเบื่อหน่ายโดยมีเครื่องดื่มมึนเมาตรงหน้าอยู่เป็นเพื่อน
ผ่านไปนานแค่ไหนแล้วที่เขานั่งอยู่ตรงนี้ ปล่อยให้เวลาผ่านไปนาทีต่อนาที กับความรู้สึกมากมายซึ่งอัดแน่นอยู่ในอก
“ขอโทษนะครับ นี่ของคุณหรือเปล่า?”
แบคฮยอนหันไปตามเสียง ก่อนจะพบกระเป๋าสตางค์สีน้ำตาลเห่ย
ๆ ชนิดว่าถ้าต้องเอาเงินสดใส่เข้าไปในนี้ สู้เขายัดเงินยับ ๆ
ใส่กระเป๋าแจ็คเก็ตหนังเสียยังดีกว่า
“ไม่ครับ น่าจะเป็นของคนแถวนี้ทำตก”
ใบหน้าหล่อเพียงยกยิ้มก่อนจะกระดิกนิ้วเรียกการ์ดที่อยู่ละแวกนี้พร้อมยื่นกระเป๋าสตางค์ใบนั้นให้และพูดอะไรบางอย่างก่อนการ์ดจะพยักหน้ารับ
ในนาทีถัดมาคนตัวสูงก็นั่งลงข้าง ๆ พร้อมชูนิ้วชี้ขึ้นและบาร์เทนเดอร์ก็พยักหน้าแล้วหันไปทำเครื่องดื่มแม้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้ปริปากพูดสักคำ
มันเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่แบคฮยอนใช้สายตาพิจารณาว่าภายใต้สูทสีเลือดนกมีอะไรซ่อนอยู่
กล้ามหน้าอก... ท่อนแขนแน่น ๆ และหน้าท้องที่เขาชักจะอยากรู้ว่ามีซิกแพ็คหรือไม่
และถ้ามีจะเป็นลอนชัดแค่ไหน ถ้าไล้นิ้วลงไปจะรู้สึกได้ถึงคลื่นกล้ามเนื้อหรือเปล่า
แล้วใต้สะดือจะมีขนเซ็กซี่ให้ลูบเล่นไหมนะ
หรือว่าจะเอาทุกจุดออกจนเกลี้ยงเพราะไม่ชอบให้รุงรัง?
“ผมหน้าเหมือนคนรู้จักเหรอ คุณถึงจ้องตาไม่กระพริบเลย”
แบคฮยอนหลุดออกจากความคิด
เขาส่ายศีรษะปฏิเสธพลางนั่งยืดตัวเล็กน้อยก่อนจะยกแก้วขึ้นจิบ
ขณะเดียวกันบาเทนเดอร์ก็ส่งเครื่องดื่มให้อีกฝ่าย
“คุณน่าจะมาที่นี่บ่อย
บาร์เทนเดอร์ถึงรู้ว่าคุณดื่มอะไร”
“ก็มีบ้าง ผมชอบมานั่งใช้ความคิดเงียบ ๆ คนเดียวมากกว่าออกไปสังสรรค์กับเพื่อนน่ะ”
โกหกทั้งเพ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปาร์คชานยอลโคตรสนุกกับการสร้างความปลอมเปลือกขึ้นมาเพื่อลองเชิงคนตรงหน้า
“ใช้ความคิดเงียบ ๆ ท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังกระแทกหูอยู่ตลอดเวลาเนี่ยนะ?”
โอ... ไม่โง่คล้อยตามว่ะ
เข้าทางเลยสิทีนี้
“เวลาคนเราจมอยู่กับความคิด
ต่อให้ใครมาตะโกนข้างหูก็ไม่ได้ยินหรอก คุณว่าจริงไหม?” ชานยอลยกแก้วขึ้นจิบ
ก่อนจะสบตากับคนตัวเล็กซึ่งคงเมาได้ที่แล้ว
ตาคู่สวยถึงได้หยาดเยิ้มจนเหมือนเชิญชวนให้ลากไปเข้าห้องน้ำแล้วทำเรื่องบางอย่างที่มันโคตรถึงอกถึงใจ
“ผมเห็นคุณอยู่บนห้องวีไอพี”
“อ้าว โป๊ะแตก” ชานยอลถึงกับมองบนพลางทำหน้าเซ็ง
ขณะที่คนตัวเล็กยิ้มขำกับท่าทีของเขา
“แต่ผมชอบคำพูดคม ๆ ของคุณนะ ถ้าคนอื่นได้ยินคงเคลิ้มจนอยากเอนไปซบไหล่คุณ”
“ผมไม่รู้ว่าคุณจะฉลาดนี่ครับ” ชมไปก่อนสิวะ
ไม่ว่าใครก็หลงตัวเองทั้งนั้น มันเป็นเรื่องธรรมชาติ
“ที่พูดอย่างนั้นเพราะอยากให้ผมแสดงความโง่ออกมาเหรอ
ยังไงดีล่ะ ‘ห้องวีไอพีปิดม่านได้ไหม มันคงดีนะถ้าเราจะขึ้นไปคุยกันบนนั้นกันสองต่อสองโดยไม่มีเสียงเพลงดัง
ๆ มารบกวน’ หลังจากนั้นเราก็จูบกันทั้งที่ม่านยังปิดเข้ามาไม่ถึงครึ่ง
ผมรูดซิปกางเกงคุณ คุณถอดแจ็คเก็ตผม แล้วผมก็ทำสิ่งที่คุณอยากให้เกิดขึ้น
ซึ่งมันก็คือการคว้าเอาไอ้นั่นของคุณเข้าปาก”
ตายห่า
ปาร์คชานยอลเจอของดีเข้าให้แล้ว
“แล้วคุณพอจะเดาออกไหมว่าขนาดมันเท่าไหร่?”
“คุณหมายถึงตอนที่เพิ่งเอาเข้าปากหรือว่าตอนที่ผมใช้ลิ้นเล่นกับมันล่ะ?”
ทั้งคู่สบตากันอย่างหยั่งเชิง บ้าไปแล้ว
ตั้งแต่ล่าเหยื่อมาไม่เคยมีคนไหนที่สามารถทำให้เป้ากางเกงของเขาแข็งตัวได้จากการนั่งคุยกันเฉย
ๆ อย่างนี้
“ผมเห็นผู้ชายสาม-สี่คนเข้ามาหาคุณ”
“นั่งมองผมอยู่ตลอดเลยเหรอ คุณชักจะน่ารักเกินไปแล้วนะ”
คนตัวเล็กอมยิ้ม นั่งเท้าคางจ้องหน้าเขากับคำว่า ‘น่ารัก’ ที่ชาตินี้ทั้งชาติปาร์คชานยอลก็เพิ่งได้ยินกับตัวนี่แหละ
“ที่น่าสงสัยคือทำไมผมยังนั่งอยู่ตรงนี้
แต่คนพวกนั้นต้องเดินคอตกกลับไป”
ทั้งคู่ขยับเข้าหากันจนใบหน้าห่างเพียงน้อยนิด
คืนนี้ปาร์คชานยอลจะไม่กลับไปมือเปล่า เขาสาบานกับตัวเองเลย คน ๆ นี้จะต้องกลับกับเขา
และนอนครางกระเส่าอยู่ใต้ร่างเหมือนคนจะขาดใจตายเวลาปาร์คชานยอลกระทั้นความเป็นชายเข้าไป
“เพราะผมอยากรู้ว่าขนาดไอ้นั่นของคุณมันจะตรงกับที่คิดไว้ไหม...
จะเล็กนิดเดียวหรือว่าแน่นคับปากจนเอาเข้าไปไม่หมด นั่นแหละเหตุผลที่คุณยังอยู่ตรงนี้”
สิ้นสุดความอดทนแล้ว
ชานยอลคว้ามือคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นด้วยกันทั้งที่ยังไม่ละสายตาออกจากอีกฝ่าย ทั้งคู่สบตากันราวกับอ่านใจอีกฝ่ายได้
ชานยอลกุมมือคนตัวเล็กเดินแทรกผู้คนออกไป
ท่ามกลางเสียงเพลงดังที่ดังแข่งกับความตื่นเต้นของเขาทั้งคู่
มันไม่บ้าเกินไปหน่อยเหรอที่เหมือนจะรู้ใจกันโดยไม่ต้องพูด
ตลกฉิบหายที่ปาร์คชานยอลด่าไอ้พวกเด็กเหลือขอข้างในนั้นไว้เยอะ
แต่ตัวเองก็เสือกไปหิ้วคนตัวเล็กออกมาด้วย
ที่ต่างกว่าหน่อยก็คงไม่ใช่เรื่องจบในห้องน้ำ
แบคฮยอนคาดเข็มขัดนิรภัยทันทีที่ขึ้นมาบนมาเซราติสีดำ
เขาพอจะจำได้ว่ารุ่นนี้ราคาราว ๆ เจ็ดร้อยล้านวอนซึ่งคนธรรมดาหรือดาราที่ว่ารวยยังคิดหนักถ้าจะซื้อ
โอเค วันนี้เขามากับคนรวยซึ่งท่าทางจะเบื่อความจำเจในชีวิตเต็มแก่
“คุณชอบแบบห้องเต็มไปด้วยกระจกหรือว่าเน้นเตียงสปริงดี
ผมพอจะรู้จักโรงแรมที่ตอบโจทย์นี้ แล้วก็วิวสวยใช้ได้เลย”
“หยุดเลยที่รัก โรงแรมไม่ใช่เป้าหมายของเราในคืนนี้”
แบคฮยอนยิ้มเมื่ออีกฝ่ายเอื้อมมือมาปิดปากเขาหลังจากสตาร์ทรถ
มือใหญ่ชะมัด
แค่คิดว่าจะถูกมือนี้สัมผัสส่วนที่อยู่ในกางเกงหนังเนื้อดีความตื่นเต้นก็ทำงานอย่างหนักแล้ว
ชานยอลกำลังสูญเสียสมาธิในการขับรถเมื่อคนข้าง ๆ
เลียมือเขา ลากปลายลิ้นไปตามความยาวของฝ่ามือก่อนจะอมนิ้วชี้และนิ้วกลางเข้าไป
ให้ตาย... ปาร์คชานยอลไม่ได้เกิดมาเพื่อคำว่าอดทนโอเคไหม เล่นดูดเลียตามซอกนิ้วจนแฉะแล้วส่งเสียงอื้ออึงในลำคอเหมือนมีความสุขแบบนี้ได้ยังไง
เป้ากางเกงเขามันคับแน่นจนแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
“ขับรถสองมือคงดีกว่า”
คนตัวเล็กคายนิ้วออกพร้อมดึงทิชชู่จากกล่องข้างตัวมาเช็ดให้
ทำเป็นพูดดี... รอยยิ้มบนนั่นคงคิดว่าเอาชนะเขาได้แล้วล่ะสิ ร้ายนักนะ
ทำเก่งไปก่อนเถอะ
บนรถคงเงียบเกินไปอีกฝ่ายจึงเปิดเพลงพร้อมเร่งเสียง
เขาเห็นว่าคนข้าง ๆ ฮัมเพลงตามและโยกตัวเบา ๆ อยู่กับที่ ก่อนจะเล่นหูเล่นตาใส่เขาที่ละความสนใจจากท้องถนนยามค่ำคืน
พอไม่ได้ทำเรื่องลามกมือก็ว่าง แบคฮยอนเปิดคอนโซลตรงหน้าก่อนจะพบว่าด้านในมีปืนอยู่หนึ่งกระบอก
ชายหนุ่มลดความเร็วลงเพื่อหันไปดูท่าทีคนข้าง ๆ ว่าเป็นอย่างไรหลังจากเห็นของอันตรายในรถคันนี้
ซึ่งคนตัวเล็กก็แค่มองมัน ก่อนจะปิดคอนโซลกลับไปราวกับว่ามันเป็นของใช้ธรรมดาที่รถคันไหนก็มี
“ไม่กลัวเหรอ?” ชานยอลเริ่มหยั่งเชิง
บางทีอีกฝ่ายอาจจะเริ่มกังวลแต่ทำเป็นนิ่งเก็บอาการ แต่ถ้ามีโอกาสก็หาทางชิ่งหนีอะไรทำนองนั้น
เพราะจากที่คุยกันมาอีกฝ่ายก็ฉลาดไม่น้อย คงไม่โง่กระโตกกระตากหรอก
เพราะถ้าปาร์คชานยอลเป็นคนธรรมดาที่ขึ้นรถไปกับใครก็ไม่รู้เพราะความหื่นมันบังตา
แล้วดันทะลึ่งไปเจอปืนเขาคงกลัวจนเยี่ยวราดแล้วก็คงไม่มีใครอยากตามล้างตามเช็ดให้ด้วย
“ถ้าคุณหยิบออกมาเล็งกลางขมับผมก็อาจมีสั่นบ้าง”
คนฟังอมยิ้ม บางทีคนตัวเล็กอาจจะตอบเอาใจหรืออะไรก็ตาม
แต่เขาโคตรชอบเลยว่ะ “ผมเห็นคนใส่สูทมากกว่าห้าคนในห้องวีไอพี
ถ้าให้เดาคาดว่าน่าจะเป็นบอดี้การ์ดหรือชื่อเรียกอะไรสักอย่างที่มีหน้าที่ต้องปกป้องคุณ
เพราะงั้นมันคงไม่แปลกถ้าคุณจะพกอาวุธไว้ป้องกันตัวเอง”
“พอถึงตอนนี้ผมชักจะไม่แน่ใจแล้วว่าระหว่างผมกับคุณ
ใครเป็นฝ่ายสนใจใครก่อน?” ชานยอลหันไปมองคนตัวเล็กที่ทอดสายตาไปยังท้องถนน
จงใจหลบตาเขาทั้งที่ยิ้มให้ท่าอย่างนั้น “ไปทำอะไรที่นั่นคนเดียว
อกหักหรือไง?”
“เปล่า ผมแค่อยากดื่มย้อมใจก่อนเข้าพิธีแต่งงาน”
“อะไรนะ?” แบคฮยอนหลุดขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่กับสีหน้าตื่น
ๆ ของอีกฝ่ายที่ละสายตาจากถนนนาน ๆ ไม่ได้ แต่ก็อยากจะมองเขาระหว่างรอคำตอบ
“เมื่อไหร่?”
“พรุ่งนี้” หน้าหล่อ ๆ
ดูตลกไปเลยพอได้ยินประโยคสั้น ๆ แบคฮยอนปล่อยให้อีกฝ่ายจมอยู่กับความงุนงงไปกับความมืดบนถนนเส้นนี้
ผ่านไปเกือบครึ่งนาทีเขาจึงหยุดล้อเล่นกับความรู้สึกอีกฝ่าย “ผมล้อเล่น”
“เหอะ”
“อะไรกัน ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไงครับ?” แบคฮยอนโน้มตัวหาคนขับพลางวางมือลงบนท่อนแขนแกร่ง คลึงปลายนิ้วชี้เบา ๆ
แต่อีกฝ่ายก็ทำเป็นนิ่ง “โกรธหรือว่ากลัวซวยถ้าพาผมกลับไปส่งงานแต่งไม่ทัน?”
“ผมเซ็งตัวเองที่ดันหลงเชื่อคุณต่างหาก
ถึงจะแค่ไม่กี่วิก็เถอะ ส่วนเรื่องกลัวอะไรนั่นน่ะไม่ต้องพูดถึง
เพราะเรื่องแบบนั้นยังห่างไกลกับคนอย่างผมมากโข”
“ใครจะรู้” แบคฮยอนกลับไปนั่งเหมือนเดิมพลางไหวไหล่
“อย่างคุณเป็นเจ้าบ่าวไม่ได้หรอก อย่างเก่งผมก็ให้เป็นได้แค่เจ้าสาว”
เริ่มยิ้มออกมาแล้ว
บางทีผู้ชายคนนี้ก็ดูเหมือนพวกแผนสูงอยู่ตลอดเวลา
แต่พอไม่กี่นาทีถัดมาก็กลายเป็นเด็กน้อยจนแบคฮยอนอยากลูบศีรษะแล้วให้รางวัล
“ก่อนจะเป็นเจ้าสาวก็ต้องหาเจ้าบ่าวให้ได้ก่อน
ถ้าไม่เป็นให้ผมก็หยุดพูดได้เลย”
“ท้าผมเหรอหื้อ?” ชานยอลอดมันเขี้ยวไม่ได้
เขาเอื้อมไปหยิกแก้มนุ่มนิ่มเบา ๆ
“แต่ถ้ามองในแง่โรแมนติกมันเรียกว่าขอแต่งงานนะ”
ชานยอลหักเลี้ยวเทียบจอดข้างทางกะทันหันเพราะเขาทนความน่ารัก
น่ามันเขี้ยวของคน ๆ นี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว ไม่ว่าจะคำพูด น้ำเสียง สีหน้า
หรืออะไรก็ตามที่ส่งมานั้นทำให้ปาร์คชานยอลปั่นป่วนไปหมด
ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครปั่นหัวเขาได้เก่งขนาดนี้
“คุณจะแต่งงานกับผู้ชายที่เพิ่งเจอกันวันแรกเหรอที่รัก?”
“คุณซีเรียสเรื่องจำนวนวันไหมล่ะ ถ้าไม่ก็ขับรถไปโบสถ์กันเดี๋ยวนี้เลย”
ทั้งคู่สบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
ต่างฝ่ายต่างสนุกกับปฏิกิริยาอีกฝ่ายพร้อมใบหน้าที่ค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปใกล้
และชายหนุ่มก็ละมือจากพวงมาลัยเพื่อโอบใบหน้าซุกซนของคนตัวเล็กเอาไว้
อยากจูบจนกว่าอีกฝ่ายจะเรียกร้องหาอากาศหายใจ แต่บรรยากาศดี ๆ ก็พังลง เมื่อมีคนมาเคาะกระจกฝั่งที่แบคฮยอนนั่งอยู่
“พ่อมึงตายหรือไงไอ้ฉิบหาย!!!
ขับรถแบบนี้ไปขุดหลุมเรียกโคตรเหง้ามึงขึ้นมาสอนขับใหม่เลยดีไหม!!! ไอ้ควาย!!! จะเลี้ยวก็หัดเปิดไฟบ้างสิวะไอ้หน้า
--”
ชายร่างท้วมสาดโทสะลั่นไปทั่วอาณาบริเวณ เขากำหมัดแน่นเตรียมซัดใส่ไอ้อีหน้าไหนก็ตามที่แม่งเลี้ยวตัดหน้ารถเขาจนเกือบเสียหลัก
แต่อาการหัวร้อนเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนก็ดับลงอย่างฉับพลัน
เพียงเพราะเห็นใบหน้าเรียบเฉยของผู้ชายผมบลอนด์เทาซึ่งกำลังเล็งปืนใส่เขาและดูเหมือนว่าพร้อมจะลั่นไกง่าย
ๆ หากว่ายังคงมีคำหยาบคายหลุดออกมาจากปากเขาไม่เลิก
“ขอโทษเขาดี ๆ ก่อนที่นิ้วชี้ผมจะกระตุก”
“...”
ไม่ใช่แค่ไอ้อ้วนหน้าสิวที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เพราะตอนนี้ปาร์คชานยอลกำลังนั่งนิ่งเพราะอึ้งกับวิธีรับมือของคนตัวเล็กซึ่งดูเหมือนว่าจะใช้เวลาตัดสินใจเพียงเสี้ยววิเท่านั้นก่อนจะเอาปืนออกมาจากคอนโซล
เขาอยู่ในวงการคาวเลือดมานานก็จริง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันเกินความคาดหมายไปมากนัก
ทำไมถึงใจกล้าขนาดนั้น?
คำขอโทษไม่เคยใช้ได้ผลกับปาร์คชานยอล
สำหรับลูกน้องที่ทำผิดอย่างมากก็แค่ไล่ออกหรือไม่ก็สั่งสอนด้วยการกระทืบจนกว่าจะไปนอนหยอดน้ำเกลือในโรงพยาบาล
แล้วไอ้คำขอโทษที่มาพร้อมเลือดเต็มปากนั่นก็ไม่เคยทำให้เขาชื่นใจซะด้วยสิ
แต่ตอนนี้ความรู้สึกมันต่างออกไป อยู่ ๆ ปาร์คชานยอลก็นึกอยากได้ยินคำขอโทษเพียงเพราะว่ามันได้มาจากการสั่งสอนของคนตัวเล็กซึ่งจนถึงตอนนี้ทั้งคู่ก็ยังไม่รู้แม้แต่ชื่อของกันและกัน
“ผมขอโทษครับพี่... ผมผิดเองที่โวยวาย ทั้งที่จะขับต่อไปเลยก็ได้
ขอโทษที่ปากหมาแล้วก็ทำให้เสียเวลานะครับ...”
ใคร ๆ ก็รักตัวกลัวตาย โดยเฉพาะผู้ชายตัวคนเดียวบนถนนเปลี่ยวซึ่งนาน
ๆ ทีรถถึงจะขับมาคันนึง ชายร่างท้วมกลืนน้ำลาย โค้งขอโทษขอโพยจนศีรษะแทบติดหัวเข่าก่อนจะรีบกลับไปขึ้นมินิทรัคสีน้ำเงินคันเก่าแล้วไปจากตรงนี้ทันที
“ว้าว”
ชานยอลผิวปากมองคนตัวเล็กที่กำลังกดปุ่มเลื่อนกระจกขึ้น
เขารับปืนมาถือไว้เองเมื่อรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
“พอเห็นหยิบปืนขึ้นมาเล็งคนง่าย ๆ แบบนี้ผมก็เริ่มจะกังวลแล้วสิว่าคุณเป็นใครกันแน่?”
“ตำรวจนอกเครื่องแบบหรือมือปืนดีล่ะ
คุณว่าอย่างผมเหมาะกับอาชีพไหน?” จนถึงตอนนี้อีกฝ่ายก็ยังคงยิ้ม
คนตัวเล็กปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วหันเข้าหาเขาเต็มตัว
เก่งนักล่ะเรื่องเล่นสงครามประสาท
จากงานที่ทำ ปาร์คชานยอลมีทั้งฝั่งพันธมิตรและศัตรูที่คิดจะขัดขากันได้ทุกเมื่อ
แต่คนเหล่านั้นก็มีแผนที่ต่างกันออกไป
อย่างน้อยก็คงไม่ใช่การเอาผู้ชายหน้าตาน่ารักมาหลอกล่อกลางคลับแล้วคิดว่าเขาจะติดกับ
แผนนี้มันหละหลวมเกินไป
“...”
แต่การทำตัวปกติคงไม่เข้ากับทั้งคู่อยู่แล้ว
พวกเขามีบางอย่างเหมือนกันซึ่งนั่นก็คือความหลงใหลในเรื่องชวนให้ตื่นเต้น ซึ่งคนใจหยาบช้าอย่างปาร์คชานยอลไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด
ตอนที่เขาเอาปลายกระบอกปืนจ่อกลางขมับอีกฝ่าย
และเขาก็ได้รู้ว่าการท้าทายครั้งนี้มันน่าชื่นใจแค่ไหนเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ตัวสั่นหรือหลับตาแน่นเพราะกลัวปืนลั่นหลังจากถูกสงสัยว่าเป็นใคร
คนตัวเล็กยังคงสบตาเขาราวกับมั่นใจว่าปาร์คชานยอลจะไม่มีวันเหนี่ยวไก ซึ่งแม่งโคตรเจ๋งตรงที่อีกฝ่ายเดาถูก
“...”
สองมือเล็กค่อย ๆ ลดระดับปืนลง บอกตามตรงว่าอยู่
ๆ ปาร์คชานยอลกลัวอีกฝ่ายบ้าดีเดือดทำเรื่องพิเรนทร์ ๆ เช่นเอานิ้วเกี่ยวไกปืนจนลั่นทะลุคอตนเองเพราะความบ้าบิ่นที่แสดงออกให้เห็นมาตลอดทาง
ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงเสียดายฉิบหาย การเจอคนถูกใจไปซะทุกอย่างนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายนะเว้ย
แต่ความกลัวของปาร์คชานยอลกลายเป็นเรื่องเลอะเทอะทันทีเมื่ออีกฝ่ายเผยอปากก่อนจะแลบลิ้นออกมาเลียปลายกระบอกปืน
เขามองดวงตาหยาดเยิ้มคู่นั้นพร้อมริมฝีปากที่ครอบอมกระบอกปืนเข้าไปครึ่งลำ ก่อนจะรูดเข้าออกช้า
ๆ ราวกับว่าความแข็งโลหะในมือคือแท่งเนื้อปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมาได้
“มานี่มา”
ชานยอลโยนปืนไปตรงเบาะหลังอย่างไม่ใยดีพร้อมปรับเบาะให้กว้างพอที่จะให้คนตัวเล็กข้ามมานั่งตัก
เขากำลังสั่นเพราะความกระสันมันทำงานหนักนานเกินไป
ลมหายใจที่เคยผ่อนเข้าออกปกติในตอนนี้เริ่มติดขัดเพราะอีกฝ่ายถอดแจ็คเก็ตออกจนเหลือเพียงเสื้อตัวบางกับยอดอกนูนเด่นชัดทั้งที่เขายังไม่สัมผัสด้วยซ้ำ
สองมือฟาดลงบนสะโพกกลมผ่านกางเกงหนังเนื้อดีอย่างมันเขี้ยว
คนที่นั่งอยู่บนตักจึงกัดริมฝีปากหลับตาพริ้มบดสะโพกสีกับของร้อนที่ซ่อนอยู่ในกางเกง
“อยากให้ผมใช้ปากวัดขนาดก่อนไหม?”
แบคฮยอนปลดกระดุมสูทสีเลือดนกก่อนจะแหวกออกจนเห็นแผงอกแกร่งและหน้าท้องเป็นลอนอย่างที่คาดเดาเอาไว้
ทุกอย่างบวกกับสีหน้าอีกฝ่ายที่มองมาอย่างรู้กันทำให้เขาตื่นเต้นจนแทบเก็บอาการและสีหน้าไม่ไหว
ไม่สนหรอกว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร มีพื้นหลังยังไง
แบคฮยอนสนแค่ว่าไอ้ที่ซ่อนอยู่ในกางเกงตัวนี้มันเก่งแค่ไหน
และจะพาเขาไปถึงฝั่งฝันได้กี่รอบ
“กับปากเอาไว้ก่อน” ชานยอลซุกจมูกลงกับซอกคอขาว
สูดดมไซ้เอาความหอมก่อนจะคลึงนิ้วมือตรงช่องทางด้านหลังของคนตัวเล็กที่เอาแต่บดเข้าหาเป้ากางเกงเขาจนมันแทบแตกอยู่แล้ว
“เพราะผมจะวัดกับตรงนี้...”
แบคฮยอนหอบหายใจข้างหูคนขี้แกล้ง เขาขยำกลุ่มผมสีขาวที่เซ็ทมาเป็นอย่างดีจนยุ่งเหยิงพร้อมแอ่นอกหาลิ้นอุ่น
ๆ ที่เอาแต่ดูดนมเขาแล้วก็กัดจนเป็นรอยฟัน
พอกันที ตอนนี้เรื่องปรนเปรอไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งคู่แล้ว
แบคฮยอนลุกขึ้นยืนเข่าเพื่อถอดกางเกงหนังออก ในขณะที่ชานยอลก็ลนลานปลดเข็มขัดและรูดซิปลงพร้อมควักลูกรักออกมาหายใจหายคอ
“ตามที่คาดไว้ไหม?”
เกลียดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ถามมาเหมือนรู้ว่าแบคฮยอนคิดอะไร ซึ่งเขาก็แค่ทำเป็นมองความใหญ่โตแล้วพยักหน้าขอไปที ทั้งที่ชอบใจจะแย่
เกลียดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ถามมาเหมือนรู้ว่าแบคฮยอนคิดอะไร ซึ่งเขาก็แค่ทำเป็นมองความใหญ่โตแล้วพยักหน้าขอไปที ทั้งที่ชอบใจจะแย่
“หันก้นน่ารักของคุณมาเดี๋ยวนี้เลย”
หัวใจเต้นตึกตัก แบคฮยอนหันหน้าเข้าหาพวงมาลัยรถพลางยันสองมือไว้กับส่วนที่จะไม่ทำให้รถคันนี้ร้องลั่น
คนตัวเล็กอยู่ในท่าโก้งโค้งตามคำสั่ง ริมฝีปากบางถูกขบด้วยฟัน ลมหายใจผ่อนออกไม่เป็นจังหวะก่อนจะสะดุ้งเพราะถูกฟาดก้นอย่างแรง
“มันเขี้ยวมากเหรอ?” แบคฮยอนหันไปยิ้มให้คนที่กำลังลูบก้นเขา
แววตาคู่นั้นซ่อนความหลงใหลไว้ได้ไม่เก่งเอาเสียเลย
“มากจนอยากกัดให้เป็นรอย” อาจจะเป็นไม่กี่เรื่องที่เขาพูดความจริงกับอีกฝ่าย
ชานยอลขยำก้นแน่น ๆ ที่ล้นเต็มมือ ก่อนจะก้มลงไปจูบเบา ๆ
ขณะที่ยังไม่ละสายตาจากคนขี้ยั่ว
“งั้นก็กัดสิ... กัดจนกว่าจะเป็นรอยฟันของคุณ”
หมดเวลาพูดหยั่งเชิงกันแล้ว ชานยอลจูบก้นขาว ๆ ก่อนจะขบฟันกัดลงไป
และเสียงร้องอื้ออึงในลำคอของคนตัวเล็กก็ทำให้เขาย่ามใจจนสร้างรอยที่สอง
ชานยอลเลียริมฝีปากก่อนจะเปลี่ยนไปให้ความสนใจกับช่องทางด้านหลังที่เขาอยากยัดลูกชายใส่เข้าไปเต็มแก่
เขาไม่สนว่าคนตัวเล็กจะนอนกับผู้ชายมาแล้วกี่คน
แต่วันนี้จะช่องทางด้านหลังของคนตรงหน้าจะต้องจำขนาดของเขาไปอีกหลายวัน
“อะ... อา...”
นิ้วทั้งสิบกำเข้าหากันเมื่อลิ้นร้อนลากไปตามร่องก้นก่อนจะกลับมาหยุดที่ช่องซึ่งขมิบเชิญชวนอยู่ทุกขณะ
ชานยอลก็ไม่รอช้า เขาเบิกทางด้วยการเกร็งลิ้นแทงเข้าไป สลับกับดูดเลียจนเกิดเสียงหยาบโลนและแบคฮยอนไม่สามารถควบคุมร่างกายที่สั่นเทาเพราะความเสียวได้เลย
สองมือแหวกก้นออกเพื่อให้ลิ้นได้แทงเข้าออกอย่างถนัดถนี่
แบคฮยอนครางอู้อี้ เสียวจนแทบยันตัวไว้ไม่ไหว ก่อนอีกฝ่ายจะถอนลิ้นออกแล้วประคองก้นเขาให้ลงมาจ่อกับแท่งเนื้อและแบคฮยอนก็ใช้มือจับความแข็งขืนนั้นใส่เข้าไปในก้นตนเอง
“อา!!!”
แบคฮยอนหลับตาแน่นขณะพยายามกลืนความใหญ่โตเข้าไปด้วยตนเอง
แต่ชานยอลก็ไม่ปล่อยให้คนตัวเล็กทำอยู่ฝ่ายเดียวจึงสอดสองแขนเข้าไปใต้ขาพับพร้อมแหวกออกกว้างเพื่อให้ลูกชายดันเข้าไปได้ง่ายขึ้น
แบคฮยอนเอนซบกับแผงอกแกร่ง มือข้างหนึ่งขยำกลุ่มผมสีขาวของคนที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหลัง
ส่วนอีกข้างชักรูดแก่นกายของตนเอง
“ถ้ามีคนมาเคาะประตูตอนนี้จะเอาอะไรไปขู่เขาดีล่ะที่รัก?”
ชานยอลกระซิบร่างอ่อนปวกเปียกที่กลืนลูกชายเขาเข้าไปจนมิดด้าม
แต่คนที่เริ่มขยับก่อนกลับเป็นคนตัวเล็กที่หันมาสบตากัน ก่อนจะจูบปิดปากให้เขาเลิกพูด
ความเป็นชายผลุบเข้าออกในช่องทางด้านหลังอย่างเชื่องช้า
พร้อมสะโพกที่ขย่มลงมาจนชายหนุ่มต้องปล่อยมือออกจากใต้ขาพับ
ร่างเล็กโน้มตัวไปข้างหน้าหาจุดยึดไว้เป็นหลัก พร้อมก้นน่ารักที่เอาอกเอาใจเขาไม่หยุด
เพราะความมืดริมถนนทำให้มองเห็นอะไรได้ไม่ชัดนัก เขาจึงเอื้อมไปเปิดไฟเหนือศีรษะเพื่อมองช่องทางด้านหลังซึ่งขยายกว้างตามขนาดลูกรักที่แทงเข้าออกซ้ำ
ๆ จนเกิดเสียงน้ำลามก ไม่มีใครออกปากห้ามเรื่องแสงสว่างในรถ
กลับกันแล้วทั้งคู่ต่างตื่นเต้นยิ่งขึ้นไปอีกหากว่ามีใครขับผ่านมาและเห็นว่าเขาทั้งคู่กำลังเสียวกันมากแค่ไหน
ชานยอลขบกรามแน่นแล้วประคองร่างคนตัวเล็กให้นอนหงายลงกับเบาะ
ก่อนจะแหวกขาข้างหนึ่งพาดกับท่อนแขนตนเองและเขาไม่ยอมเสียเวลาให้รูด้านหลังนั้นต้องอ้ารอนาน
ความเป็นชายที่เยิ้มไปด้วยน้ำกามจึงถูกสอดใส่เข้าไปในวินาทีถัดมา
แบคฮยอนครางระงมจนฟังไม่เป็นภาษา
ร่างของเขาไถลไปกับเบาะทุกครั้งที่อีกฝ่ายกระแทกเข้ามาจนมาเซราติสั่นสะเทือน
สองมือโอบใบหน้าหล่อเข้ามาใกล้ เขาแลบลิ้นซุกซนออกไปและอีกฝ่ายก็ก้มลงมาดูดก่อนจะเปลี่ยนเป็นจูบเร่าร้อนในวินาทีถัดมา
“เรียกชื่อผม... แบคฮยอน.. อะ!! อะ!!”
“แบคฮยอน... แบคฮยอน...”
เขาชอบชื่อตัวเองเหลือเกิน
โดยเฉพาะตอนที่อีกฝ่ายเรียกไม่หยุดขณะกระแทกแกนกายเข้ามาไม่ยั้ง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่น
มันหยาบโลนแต่ก็น่าฟังเสียยิ่งกว่าอะไรในวินาทีนี้
“ชื่อของคุณ...”
“อยากรู้เหรอ?” แม้ว่าร่างกายยังโยกไหวแต่ใบหน้าหล่อก็ยังแสดงความทะเล้นออกมาได้
แบคฮยอนเพียงแค่นหัวเราะ ก่อนจะขมิบตอดรัดสั่งสอนคนที่กล้าลองดีกับเขาในช่วงเวลาแบบนี้
“อา...!!!”
“ถ้าไม่บอกก็ชื่อ ‘ผัว’ ไปแล้วกัน”
“ตอนแรกกะจะบอกแล้วว่าชื่อชานยอล แต่แบบที่คุณว่าก็ดีเหมือนกัน
เพราะตอนคุณเรียกอย่างนั้นคงน่าเอาฉิบหาย”
สะโพกสอบยังคงกระทั้นเข้าหาความสุขสันต์
ชานยอลสบตากับคนตัวเล็กที่เผยอปากครางชื่อเขาซ้ำ ๆ
กระทั่งแท่งน่ารักพ่นน้ำขาวขุ่นออกมาเลอะหน้าท้องแบนราบ แต่ตัวแสบก็ยังคงเป็นตัวแสบ
แทนที่จะหมดแรงแต่กลับบดก้นสู้หาความแข็งขืนซึ่งเร่งจังหวะเร็วขึ้นจนเสียงครางของทั้งคู่ประสานกันดังระงมก่อนชายหนุ่มจะชักแท่งเนื้อออกมาปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นที่พุ่งใส่หน้าท้องที่เลอะอยู่แล้ว
แต่ก็มีบางส่วนที่กระเด็นไปโดนใบหน้าแบคฮยอน
“...”
กะว่าจะเช็ดให้
แต่คนขี้ยั่วก็ใช้นิ้วปาดเอาน้ำของเขาเข้าปากตัวเองราวกับอยากรู้รสชาติว่ามันอร่อยแค่ไหน
แต่น้ำกามหยดแค่นั้นคงไม่สะใจ เจ้าตัวถึงได้ลุกขึ้นมาจับความเป็นชายเข้าปาก
ดูดเลียเอาน้ำขาวขุ่นที่ยังทะลักออกมาไม่หมดก่อนจะกลืนให้เขาเห็น
“ไม่ต้องชื่อแบคฮยอนแล้ว ชื่อเมียผมดีกว่าแบบนี้”
ชานยอลเสยผมที่ปรกใบหน้าน่ารักขึ้นเพื่อให้มองปากนุ่มนิ่มที่สามารถอมลูกชายเขาได้จนมิดด้าม
ก่อนจะคายออกมาเลียทุกอย่างที่กลืนลงคอได้
“ได้คำตอบเรื่องขนาดหรือยัง?”
ชานยอลจับแท่งเนื้อถูแก้มคนตัวเล็กที่กำลังอ้าปากไล่ตาม
ก่อนคนตัวเล็กจะอมยิ้มกับคำถามที่มาพร้อมการกระทำแสนทะลึ่ง
“ผมจะตอบถ้าคุณยอมอยู่ด้วยกันจนถึงคืนพรุ่งนี้”
TBC
น่าจะ 1 2 3 ตอนจบ
อยากให้กำลังใจก็ติดแท็ก #insaneCB ได้เลยน้า
ตอนนี้ขอไปไล่ข้วดดากแมวก่อน มันกวนนานละ
เขียนเสร็จช้าเพราะบักเจด็จเนี่ย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น