สเปพิเศษ แยกมาจาก #ฟิคเปย์เด็ก
ชื่อ #ไย่หมีกับตะโอ
‘หากเราคาดหวังว่าจะได้เจอรักดี
ๆ รักอัปรีย์ ๆ จะพุ่งเข้ามาแทน’
คติประจำใจของโอเซฮุน
ถูกบัญญัติไว้เมื่อ 13 มกราคม 2012
“พรุ่งนี้ผมขอลางานนะพี่
ต้องไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลอะ”
“เดือนนี้ลาไปกี่ครั้งแล้ว?”
คำถามจากผู้จัดการหนุ่มทำเอาพนักงานประจำลอบถอนหายใจกับความโหดร้ายที่ไม่เคยลดลงเลยสักนิด
แม้ว่าจะทำงานร่วมกันมาเกือบปีแล้ว
“ยกมือขึ้นมา”
“โธ่... พี่เซฮุน...”
“บอกให้ยกมือไงวะ” คนเป็นรุ่นน้องยืนห่อไหล่พร้อมยกมือขึ้นมา
ทันทีที่เห็นว่าคนเป็นผู้จัดการร้านทำท่าจะตบหัวเขา “นับซิ
ว่าเดือนนี้มึงลาไปกี่ครั้งแล้ว”
“หนึ่ง... สอง... สาม... สี่...
ห้า... หก...”
“แล้วนี่เป็นครั้งที่?”
“เจ็ดครับ...”
“พนักงานประจำประเทศไหนลาเยอะขนาดนี้
มันเกินโควตาแล้ว จะเอาเปล่าเงินเดือนอะ?”
“เอาสิพี่ โธ่” เด็กหนุ่มวัยยี่สิบเข้าไปกอดแขนรุ่นพี่อย่างออดอ้อน เอาหัวถู ๆ
ไหล่แม้ว่าจะถูกดันหัวออกแต่ก็ไม่เป็นผล
“ให้ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายนะ
อยู่ช่วยกูจนกว่าชานยอลกับจื่อวีจะมา หลังจากนั้นจะไสหัวไปไหนก็ไป”
“ได้เลยฮ้า”
ผู้จัดการหนุ่มถอนหายใจกับปัญหาเดิม ๆ
ที่มีมาให้ปวดหัวได้ไม่จบไม่สิ้น พนักงานก็ขี้เกียจแต่เสือกอยากได้เงินเดือนเต็ม เจ้านายอยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง
แต่ทำเป็นแค่นั่งเปื่อยเอาบรรยากาศตอนสมองตื้อกับงานออกแบบ
แต่ไม่รู้จักจัดการอะไรสักอย่าง
ไม่รู้คิดถูกคิดผิดที่มาทำงานที่นี่
จากตอนแรกแค่อยากเป็นลูกจ้างทั่วไปที่ไม่ต้องทำอะไรเกินไปกว่าหน้าที่
แต่ตัดภาพมาอีกที เจ้านายอย่าง ‘คิมจงอิน’ ก็ผลักงานทุกอย่างมาให้เขา
รวมถึงไอ้ตำแหน่งพี่เลี้ยงเด็กจำเป็นด้วย
พอนึกถึงหน้าผู้ชายคนนั้นทีไรเป็นต้องลอบถอนหายใจทุกที
โอเซฮุนโตมากพอแล้วที่จะแยกแยะและจัดการความรู้สึกได้
แต่นั่นก็เหมือนว่าเขาพยายามบอกตัวเองให้เป็นอย่างนั้นเสียมากกว่า
พยายามแล้ว! เขาพยายามที่จะนิ่งและไม่แสดงจุดอ่อนออกมาให้เห็น
แต่ยิ่งพยายามก็ดูเหมือนว่าเจ้านายจะได้ใจ จนความผิดพลาดในวันนั้นมันเกิดขึ้นซ้ำสอง
สาม สี่ ห้า อย่างไม่เต็มใจ
เออ ครั้งแรกอะไม่เต็มใจ แต่หลัง ๆ
ก็มีบ้างที่หลวมตัว
ซึ่งความผิดพลาดที่ว่าก็คือ...
เขากับผู้ชายเฮงซวยนั่นนอนด้วยกันแล้วยังไงล่ะ
อ้อ สำหรับคนที่กำลังโลกสวย
โอเซฮุนจะขอย้ำอีกครั้งว่ามันคือการมีเซ็กส์ ไม่ใช่การนอนคุยเรื่องงานบนเตียงกันอย่างเจ้านายและลูกจ้าง
หลังจากนั้นก็ต่างคนต่างนอนหันหลังให้กัน
เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะเบียร์สองขวดที่ซัดไประหว่างนั่งคุยกัน
ทั้งเรื่องปัญหาหัวใจของเพื่อนสมัยเรียนอย่างคุณแบคฮยอนและคุณจูฮยอน ซึ่งมีพนักงานพาร์ทไทม์อย่างชานยอลเข้าไปเอี่ยวด้วย
เซฮุนคิดว่าเจ้านายเป็นคนขี้เสือกในระดับหนึ่ง
อันที่จริงคิมจงอินควรเอาเวลาไปจัดการปัญหาชีวิตตัวเองให้เป็นระบบมากกว่าหยิบยกเรื่องคนอื่นมาคุยในช่วงนอกเวลางาน
อย่างน้อยก็ควรหาคนมาเลี้ยงลูกอย่างจริงจัง ไม่ก็หาเมียใหม่ไปเลย
แต่ไอ้ผู้ชายเฮงซวยกลับบอกว่าจะหาทำไมในเมื่อมีแล้ว
แถมยังมองมาด้วยสายตาประมาณว่าอยากกระชากเสื้อเชิ้ตของเขาออกแล้วฟันอย่างเลือดเย็นอีก
ไอ้เจ้านายห่าเหวนี่มันโคตรหื่นกามจริง ๆ
เซฮุนพยายามเปลี่ยนเรื่อง
โดยการพูดถึงการปรับปรุงร้านและนำสิ้นค้าอย่างอื่นเข้ามาขาย ซึ่งมันเป็นจังหวะดีที่คนเป็นผู้จัดการจะขอขึ้นเงินเดือน
แต่ไอ้เจ้านายก็พูดออกมาว่า
‘ถ้าอยากได้เงินเดือนเพิ่ม
ก็ทำงานให้มากกว่านี้สิ’
พูดจบก็รูดซิปกางเกงลง ควักไอ้ตัวปัญหาที่ทำให้เด็กชื่อคิมแทโอออกมาดูโลก
พร้อมส่งสายตาเป็นเชิงเร่งเร้าให้เขาจัดการกับมันแต่โดยดี
เซฮุนรู้ตัวเลยว่าเขากำลังชักสีหน้าและถอนหายใจดังแค่ไหน
ตอนเห็นว่าอีกฝ่ายยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดีพร้อมผงกหัวไอ้นั่นเรียกเขาอีกรอบ
ความย้อนแย้งมีในตัวมนุษย์ทุกคน
แต่มันขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นเรื่องไหน ถ้าหากพูดถึงโอเซฮุน เขาก็คงย้อนแย้งเพราะรู้สึกเกลียดในสิ่งที่เจ้านายเฮงซวยเป็น
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเซ็กส์แบบเผ็ดร้อนของพ่อหม้ายลูกติดแม่งโคตรสุดยอดเลย
ผู้จัดการหนุ่มลุกขึ้นเดินไปนั่งคุกเข่าลงบนพื้นพรม
ซึ่งคนเป็นเจ้านายก็อ้าขาออกเพื่อให้เขาเข้าไปนั่งตรงหว่างขาได้อย่างถนัดถนี่
เซฮุนจ้องส่วนแข็งขืนที่เคยเข้าไปตัวเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างประคองเอาไว้ แตะลิ้นเบา ๆ ที่ส่วนปลาย ดุนลงไปกวาดไล่น้ำใส
ๆ ที่ซึมออกมา แล้วเริ่มครอบครองทั้งหมดด้วยโพรงปาก
เสียงผ่อนลมหายใจอย่างสุขสมมาพร้อมมือที่ลูบศีรษะเขาและคำชมที่บอกว่าโอเซฮุนใช้ปากเก่งแค่ไหน
ผู้จัดการหนุ่มใช้มือช่วยปากรั้งรูดจนท่อนเอ็นทั้งลำเยิ้มไปด้วยน้ำลาย
คนเป็นเจ้านายได้ใจ เริ่มโยกสะโพกสวนเข้าหาโพรงปากอุ่นและกดศีรษะเขาให้อมเข้าไปจนมิด
คิมจงอินกำลังจะไม่ไหว
ถึงได้โน้มตัวลงมาช่วยปลดกระดุมเชิ้ตของเขาอย่างร้อนรน และรังดุมบนเสื้อมันคงมีหลายเม็ดเกินไปจนทำให้ความไม่พอใจเกิดขึ้น
คนเป็นเจ้านายจึงสบถอย่างหยาบคายว่า ‘ไม่ต้องถอดแม่งแล้ว ลุกขึ้นเร็ว’
เซฮุนทำตามอย่างไม่อิดออด ถอดกางเกงออกแล้วนั่งคร่อมตักคนเป็นเจ้านายซึ่งทำหน้าเป็นไอ้หื่นกามที่พร้อมจะปู้ยี้ปู้ยำใครก็ได้ในวินาทีนี้
คิมจงอินถุยน้ำลายใส่มือตนเองก่อนจะลูบลงบนร่องก้นของเขา
ไอ้พ่อหม้ายลูกหนึ่งเป็นคนเรียนรู้เร็วอย่างที่ปากเคยโม้ไว้ไม่มีผิด
เซฮุนก้มลงมองอีกคนซึ่งกำลังใช้จมูกเขี่ยคอเสื้อที่ถูกปลดรังดุมออกไปเมื่อก่อนหน้านี้
พร้อมไล้เลียยอดอกซึ่งไวต่อความรู้สึก ทำเอาผู้จัดการหนุ่มไร้เรี่ยวแรงจนต้องแอ่นอกรับ
เรียวนิ้วกลางสอดเข้ามาเบิกทางโดยมีน้ำลายเป็นตัวช่วย
เซฮุนบดสะโพกหานิ้วที่ชำแรกเข้ามาเพิ่ม หากแต่คนส่งเสียงครางกลับเป็นเจ้านาย
เขาก้มลงมองใบหน้าหื่นกามของอีกฝ่ายที่กำลังเสียวซ่านสุด ๆ เมื่อการบดสะโพกเมื่อครู่มันส่งผลไปถึงแก่นกายทั้งสองที่กำลังเสียดสีกันจนน้ำหล่อลื่นซึมออกมาจากส่วนปลาย
มันต่างจากครั้งแรกที่เราเคยทำ ตอนนั้นต่างฝ่ายต่างเงอะงะจนสุดท้ายก็พลาดปล่อยเข้ามาในตัวเขา
ทนอึดอัดตัวอยู่นาน กระทั่งคิมจงอินต้องควานมันออกให้นั่นแหละถึงรู้สึกดีขึ้น
‘น่าฟัด’
‘หุบปาก’
‘พูดกับเจ้านายแบบนี้เหรอ
หักเงินเดือนดีไหม?’
‘เอาสิ
ผมจะได้ลาออกไปทำงานที่อื่นสักที’
‘ขี้งอนซะด้วย มามะ
เดี๋ยวผมจะโอ๋คุณเอง’
เซฮุนครางหวิว
เมื่อตอนนี้ไอ้พ่อหม้ายลูกหนึ่งได้ใช้มือทั้งสองข้างอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
มือขวาชักเข้าออกในช่องทางด้านหลังอย่างถี่รัว
ส่วนมือซ้ายรวบแก่นกายของเราทั้งคู่ไว้ด้วยกันพร้อมขยับรูด
ผู้จัดการหนุ่มหอบหายใจกระเส่า
พร้อมเป็นฝ่ายดึงเรียวนิ้วออกจากช่องทางด้านหลังแล้วยกสะโพกขึ้น
เขาทั้งเกลียดทั้งรักสีหน้าของเจ้านายตอนมองมาอย่างพอใจ ยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะซี๊ดปากเมื่อเขากดสะโพกลง
เซฮุนไม่ได้หลงใหลการมีเซ็กส์กับผู้ชายตั้งแต่แรก
เขาเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงและมีเซ็กส์กับเธอนับครั้งไม่ถ้วน แต่พอจบมอปลายชีวิตก็เริ่มเจอปัญหา
เขาจึงต้องลาออกจากมหาลัยเพราะไม่มีปัญญาเรียนต่อ หางานทำเพื่อให้รอดไปถึงวันพรุ่งนี้
ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นงานประเภทไหน ขอแค่สุจริตก็พอ
ซึ่งงานสุจริตที่ว่าก็ต้องให้ค่าแรงดีด้วย
และนั่นก็คือการทำงานในสถานบันเทิงยามค่ำคืน
เซฮุนอยู่หน้าบาร์น้ำและดื่มเป็นเพื่อนแขกบ้าง แต่ไม่มีการหิ้วสาวกลับไปค้างที่อพาร์ทเมนท์
เขาทำอย่างนั้นอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งเจอลูกค้าอกหักช้ำใจมานั่งคุยด้วยและชวนดื่มจนผับปิด
เมาอ้วกแตกอ้วกแตนจนต้องหามไปขึ้นรถ แต่ก็นั่นแหละ ต่างคนต่างเมา
เซฮุนเลยได้เปิดโลกการมีเซ็กส์กับผู้ชายเป็นครั้งแรก ซึ่งมันเจ็บบัดซบ
มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง สาม สี่ ห้า
ต้องบอกเลยว่ารสชาติมันต่างจากการมีเซ็กส์กับผู้หญิงตรงที่ผู้ชายด้วยกันจะรู้ดีว่าทำตรงไหนถึงจะทำให้เหยียบแตะถึงสวรรค์
เซฮุนทำที่นั่นอยู่หลายปี จนกระทั่งเบื่อชีวิตกลางคืน
เขาจึงหันมาเริ่มต้นกับงานธรรมดา ๆ ซึ่งใคร ๆ ก็ทำได้
และนั่นก็คือร้านกาแฟที่เซฮุนคิดว่าแค่ชง ๆ ก็จบ คงไม่ยากอะไร
แต่เขาก็รู้ว่ามันไม่ง่าย เมื่อเขาได้เรียนรู้มันจากรุ่นพี่ที่ทำงาน
เซฮุนลาออกจากที่นั่นด้วยเหตุผลบางอย่าง
ก่อนจะมาสมัครงานที่ร้านของเจ้านายบ้ากามอย่างคิมจงอิน ตอนแรกเป็นแค่ลูกจ้างประจำ
แต่ไป ๆ มา ๆ ก็ถูกยัดตำแหน่งผู้จัดการให้ แม้ว่าจะไม่เต็มใจนัก
‘ใจลอยไปไหน?’
‘ผมกำลังคิดว่าอะไรที่ทำให้ผมต้องมายืนหันหลังให้คุณทำเรื่องแบบนี้’
‘สุดยอดเลยใช่ไหมล่ะ
ผมรู้ว่าคุณชอบท่านี้’
เกลียด บอกแล้วไงว่าเกลียด จากที่ทำกันบนโซฟาตอนนี้ทั้งคู่ได้ย้ายมาในครัวแล้ว
เซฮุนเท้าแขนลงกับเคาน์เตอร์บาร์พร้อมกัดริมฝีปากล่างแน่น ปล่อยให้เจ้านายบ้ากามแหวกสะโพกออกแล้วกระแทกเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่าจนได้ยินเสียงน่าเกลียด
‘ตอดใหญ่เลย เสียวเหรอครับ?’
‘หุบ... หุบปาก’
‘เอาปากคุณมาสิ
แล้วผมจะหยุดพูดเดี๋ยวนี้เลย’
ผู้จัดการหนุ่มถูกจับคางให้หันไปสบตากับคนที่ยืนทำเรื่องลามกอยู่ข้างหลัง
รอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าคนเจ้าเล่ห์ทำให้เซ็กส์บ้า ๆ
ของเราน่าตื่นเต้นขึ้นมาอย่างไม่อยากยอมรับนัก คนตัวผอมปรือตาพร้อมอ้าปากเล็กน้อย
เมื่ออีกฝ่ายเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้และพร้อมจะหยุดพูดตามคำสั่งด้วยลิ้นของเขา
เซฮุนยกมือขึ้นคว้าต้นคอคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังเพื่อรสจูบที่แนบแน่น
คนเป็นเจ้านายดูดลิ้นหยอกเย้าพร้อมบดขยี้ยอดอกจนมันแข็งเป็นไต
พ่นคำลามกออกมาได้ไม่หยุดยามถอนจูบออกเพียงเสี้ยววิ
ก่อนจะกลับไปแลกลิ้นกันอีกครั้ง
ร่างกายไหวโยกไปตามแรงส่งซึ่งรุนแรงถี่กระชั้นราวกับคนไม่รู้จักเหนื่อย
ในขณะที่เขาปลดปล่อยใส่มือตนเองไปแล้ว แน่ล่ะ... นอกจากการยืนหันหลังให้เจ้านายกระแทกอย่างเอาแต่ใจ
เซฮุนก็ไม่อยากหยิบผ้าขี้ริ้วมาเช็ดคราบความน่าอายนี้หากมันพุ่งไปเลอะส่วนไหนของครัว
‘บอกให้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน’
‘ไม่’
‘น่า... แล้วผมจะไม่บอกใคร’
‘บอกว่าไม่ไง... อะ!’
รู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายใกล้จะถึงฝั่งฝันเพราะจังหวะที่เร่งเร็วขึ้น
เซฮุนหอบฮักกำมือแน่นกระทั่งอีกฝ่ายปลดปล่อยในช่องทางด้านหลังของเขาจนมันทะลักออกมาเลอะตามซอกขา
‘บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าปล่อยข้างใน
ผมต้องเดินบนถนนนะ’
‘ผมก็บอกคุณแล้วเหมือนกันว่าชอบเห็นตอนมันไหลออกมาตามซอกขาของคุณ’
‘ไอ้หื่นกามเอ้ย’
‘โอ๋นะจ๊ะ
เดี๋ยวผมทำให้มันกลับเข้าไปข้างในเอง สกปรกจริง ๆ เลยคิมจงอิน’
คนกวนประสาทพูดพร้อมจับส่วนแข็งขืนของตนเองกวาดคราบขาวขุ่นตามซอกขาของลูกจ้างไล่ขึ้นไปจนหยุดอยู่ที่ช่องทางซึ่งบวมแดงเพราะบทรักเมื่อครู่
เขาเห็นว่าตอนนี้สายตาของเจ้านายเป็นอย่างไร หื่นกามแค่ไหนตอนเอาส่วนหัวถูไถแกล้งกดเข้าและถอนออกซ้ำ
ๆ
นั่นแหละ...
เราสองคนไม่เคยจบแค่รอบเดียว
“เซฮุน”
“...ครับ?”
เจ้าของชื่อหลุดออกจากความคิดพร้อมมองไปยังคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งของเคาน์เตอร์
ซึ่งนั่นก็คือคุณแบคฮยอนเพื่อนสนิทเจ้านายของเขา กับไอ้เด็กก้อนคิมแทโอที่ชานยอลอุ้มอยู่
“ซัมชน!” ( 삼촌 ซัมชน แปลว่าอา )
“ไง วันนี้ฉี่ราดกางเกงหรือเปล่า?” เซฮุนยักคิ้วทักทายเจ้าเด็กแสบที่เขาเลี้ยงดูมาเป็นปี ๆ
“ตะโอฉี่ในห้องน้ำ คุงคูพาตะโอฉี่”
“ไม่เห็นจะเก่งเลย” ผู้จัดการหนุ่มดึงแก้มยุ้ย ๆ ของเด็กสามขวบ ก่อนจะพยักหน้กส่งสายตาบอกพนักงานพาร์ทไทม์ให้รีบไปเปลี่ยนชุด
ชานยอลจึงส่งแทโอให้คุณแบคฮยอนอุ้ม ก่อนจะเข้าไปในห้องด้านหลัง
“พอดีจงอินมันบอกให้ผมไปรับแทโอมาฝากไว้ที่นี่น่ะ
เดี๋ยวมันจะเข้ามาตอนทุ่มนึง”
“อ๋อ ได้ครับ คุณวางแทโอไว้ฝั่งนั้นก็ได้
มีโซนไว้สำหรับลิงอยู่” เซฮุนผายมือไปทางซ้ายสุดของตัวร้าน
ซึ่งแบคฮยอนก็พยักหน้ารับแล้วอุ้มหลานไป
.
.
“แทโอ เดี๋ยวอาจะกลับแล้ว
อยู่ที่นี่อย่าทำให้ซัมชนปวดหัวนะ” แบคฮยอนนั่งลงยอง ๆ
พร้อมยื่นช็อกโกแลตให้หลาน ซึ่งแทโอก็ทิ้งกันดั้มแล้วคว้าขนมไว้
พยายามแทะมันด้วยฟันไม่กี่ซี่ จนกระทั่งแบคฮยอนรับไปแกะให้ “รับปากอาก่อนเร็ว”
“ตะโอจะไม่ดื้อฮะ”
“เยี่ยม นั่งอยู่ตรงนี้นะอย่าซน
อย่าวิ่ง ถ้าปวดฉี่ ปวดอึให้เดินไปหาพี่ชานยอลตรงนั้น ตกลงไหม?” นึกแล้วก็หน่ายไอ้เพื่อนชั่วที่ทำให้เขาต้องลำบากใจอย่างนี้
ถ้าบยอนแบคฮยอนไม่ต้องไปทำงานต่อเสียก็ดีหรอก
เขาไม่รู้สึกดีเลยที่ต้องปล่อยให้แทโอนั่งอยู่ในร้านกาแฟตรงนี้ตามลำพังเพื่อรอพ่อเชี่ย
ๆ มารับ
“ตะโอจะเรียกซัมชน เราตะหนิดกัน” เด็กน้อยทำตาปริบ ๆ ได้ยินแบบนี้แล้วก็โล่งใจอยู่ แบคฮยอนยิ้มพลางยีหัวหลานชาย
ก่อนจะหันกลับไปที่เคาน์เตอร์กาแฟ มองเซฮุนที่กำลังตั้งใจทำงานอย่างขะมักเขม้นโดยมีชานยอลเข้าไปช่วยอีกแรง
“ดีมาก ถ้าแทโอเป็นเด็กดี
อาจะซื้อกันดั้มให้หลาย ๆ ตัวเลย”
“พูกจิงนะ!
ห้ามโกหก!”
“ชู่วว์... อย่าเสียงดังสิ”
“จิงนะ...”
แทโอมองอย่างมีความหวัง เบาเสียงลงก่อนจะยิ้มกว้างเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้า “ตั๋นยากันก่อน...”
“ทำตัวน่ารักกับอัปป้า กับซัมชนให้มาก
ๆ ด้วย” แบคฮยอนเกี่ยวก้อยกับนิ้วเล็ก ๆ
“ตะโอรู้ แต่...” เด็กน้อยเงียบไป ขณะสบตากับเพื่อนสนิทพ่อ
“แต่อะไร?”
“แต่อัปป้าไม่ได้ชอบซัมชนเหมือนที่ตะโอชอบ”
“หืม ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ?” แบคฮยอนเลิกคิ้วมองอย่างประหลาดใจ จากที่ฟังมา เขาคิดว่าไอ้จงอินมันค่อนข้างประทับใจผู้จัดการร้านคนนี้เป็นอย่างมาก
ทั้งเรื่องรับผิดชอบร้าน ทั้งความเป็นระเบียบ ช่วยดูแลลูกให้สารพัด
“ตะโอเคยเห็นอัปป้าตีซัมชนฮะ”
“ตีเลยเหรอ?”
บ้าน่า ถึงไอ้จงอินมันจะทำตัวถ่อยบ้าง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องตีลูกจ้างตัวเองเนี่ย...
เขาไม่อยากเชื่อเลย
“อือ” เด็กน้อยกระโดดลงจากโซฟา
“ตะโอเห็นอัปป้าจับซัมชนเขย่าแบบนี้”
แบคฮยอนเบิกตากว้างอย่างตกใจ
ทันทีที่เห็นว่าเด็กน้อยวัยสามขวบกำลังจับโซฟาแล้วเด้งสะโพกเข้าหาในจังหวะที่เด็กไม่ควรทำ
อีกทั้งยังพูดงึมงำอีกว่า
‘อีกฉิ ชอบไหม อยากให้ผมทำแยง ๆ
กว่านี้ยึเปล่า’
คนตัวเล็กอ้าปากหวอ ทนมองไม่ไหวจึงคว้าตัวหลานออกมาจากโซฟาแล้วปิดปาก
แทโอทำตาปริบ ๆ พยายามเงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ ตะโอแค่เล่าความจริงตะไมแบคฮยอนรับไม่ได้
อัปป้าไม่ชอบซัมชนจริง ๆ นะ เชื่อตะโอเถอะ
“ซัมชนคงเต็บมากแน่ ๆ ตะโอได้ยินเสียงซัมชุนร้องฮะ”
มึงทำอะไรให้หลานกูเห็นเนี่ย ไอ้เชี่ยจงอิน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
มึงทำอะไรให้หลานกูเห็นเนี่ย ไอ้เชี่ยจงอิน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
TBC
ตอนพิเศษจาก #ฟิคเปย์เด็ก ค่ะ คุณสถาปนิกผู้เป็นเจ้าของร้านกาแฟ
และผู้จัดการร้านของเขา และลูกชายที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ 5555555555555
ติดแท็ก #ไย่หมีกับตะโอ ในทวิตได้เลยนะคะ ตอนพิเศษจะมาเรื่อย
ๆ ค่ะ เหมือนซิทคอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น